ในปีนี้ Ford สหรัฐอเมริกากำลังจะได้ลาภก้อนใหญ่กว่าที่คิด นั่นเป็นเพราะ Ford สามารถขายรถ Fusion เจเนเรชั่นใหม่
ในระดับที่สูงมากซึ่งก็คงไม่น่าแปลกใจอะไรมากนักเมื่อมองดูตัวรถก็จะพบว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงตัวรถครั้งสำคัญ อีก
ทั้งยังบรรจุเทคโนโลยีใหม่ ๆ ชนิดไม่มีกั๊ก จนทำให้ Ford ไม่อาจส่งมอบ Fusion ให้ลูกค้าทันตามที่กำหนดได้
DetroitNews.com รายงานว่า Ford Motor กำลังประสบความสำเร็จกับยอดขาย Ford Fusion เจเนเรชั่นใหม่ที่
เติบโตมากถึง 22% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ในเมื่อรถขายดีเกินคาดขนาดนี้ก็จะเป็นทุกขลาภของ Ford ที่ไม่สามารถ
ส่งรถให้ลูกค้าในเมืองใหญ่ได้ทันตามกำหนด อาทิ ลอสแองเจลิส, ซานฟรานซิสโกและไมอามี่
ตามปกติมาตรฐานการส่งมอบรถยนต์ Ford ให้ถึงมือลูกค้าจะอยู่ในระยะเวลา 39 วัน หรือหากอยู่ในช่วงที่ขายได้ดีก็
จะต้องรอ 60 วัน
วิธีการแก้ปัญหาสินค้าคงคลังไม่ให้ขาดก็คงจะต้องปรับกลยุทธ์ส่งรถไปตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ Ford อาจจะส่ง
Fusion รุ่นมาตรฐานและ Hybrid ไปยังพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกและตะวันตกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มกะที่ 3 ที่โรงงาน
Hermosillo ในเม็กซิโกจนทำให้ผลิต Ford Fusion ได้ปีละ 300,000 คันและปีนี้ก็จะเพิ่มกะในโรงงาน Flat Rock
สหรัฐอเมริกาจนผลิต Ford Fusion ได้ 100,000 คันหรือเดือนละ 8,000 คัน
การเพิ่มกำลังผลิตที่โรงงาน Flat Rock ถือไม้เด็ดของ Ford ที่คิดจะถล่มคู่แข่งตัวเป้งอย่าง Toyota Camry, Honda
Accord และ Nissan Altima เพื่อป้องกันมิให้ลูกค้า Ford Fusion ไหลไปหารถคู่แข่งจากญี่ปุ่น
ในปี 2012 Toyota Camry ยังครองรถตลาด D-Segment อันดับ 1 ด้วยยอดขายมากกว่า 400,000 คัน ตามมาด้วย
Honda และ Nissan ที่มียอดขายมากกว่า 3 แสนคันและ Ford Fusion ที่ทำยอดขาย 241,000 คัน