หลังจากมีภาพหลุด BMW 1-Series Modelchange เมื่อ 3-4 วันที่แล้วจนเป็นที่ฮือฮาในหมู่นักท่องเน็ตรักรถเข้าสายเลือดและมีกระแสเสียงตอบรับไม่ค่อยดีนักในด้านการออกแบบที่ดูไร้แรงบันดาลใจ ไม่สดใหม่หรือเร้าใจอย่างที่ควรจะเป็น

แต่เราชักไม่แน่ใจว่าภาพหลุด BMW 1-Series Modeilchange บนอินเตอร์เน็ตเป็นแผนการโปรโมตส่วนหนึ่งของ BMW หรือเปล่า เพราะวันนี้ BMW เผยแพร่รายละเอียดของ BMW 1-Series Modelchange อย่างเป็นทางการอย่างน่าสงสัยว่า เวลามันจะพอเหมาะพอเจาะกับภาพหลุดไม่กี่วันก่อนได้ขนาดนี้เลยหรือ

BMW 1-Series Modelchange นับเป็นเจเนเรชั่นที่ 2 ของตระกูลรถคอมแพคท์ท้ายตัดระดับหรูที่สามารถต่อกรกับ Audi A3 โดยตรงได้ภายใต้รหัสตัวถัง F20 และที่สำคัญ BMW ยังยืนยันใช้แพลทฟอร์มขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนกับรุ่นที่แล้ว มิได้เปลี่ยนเป็นแพลทฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าตาที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ด้วยความเป็นรถคอมแพคท์ขับเคลื่อนล้อหลังหนึ่งเดียวในตลาดจน BMW สามารถชูจุดขายของ BMW 1-Series Modelchange ว่าเป็นรถเล็กขับเคลื่อนล้อหลังที่ยืนหยัดในตลาดเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นเพราะคู่แข่งล้วนแต่พัฒนารถขึ้นบนพื้นฐานขับเคลื่อนล้อหน้าทั้งนั้น และเพิ่มคุณสมบัติการขับขี่แบบสปอร์ตมากขึ้น, ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง, เพิ่มความสบายในห้องโดยสาร

มิติตัวถัง BMW 1-Series Modelchange มีความยาวตัวถังเพิ่มขึ้น 85 มม. เป็น 4,324 มม., ฐานล้อยาวขึ้น 30 มม. เป็น 2,690 มม., แทร๊คล้อหน้ากว้างขึ้น 51 มม. และแทร๊คล้อหลังกว้างขึ้น 72 มม. ส่งผลให้มีเนื้อที่ห้องโดยสารยาวขึ้น 20 มม. มีเนื้อที่ห้องสัมภาระอีก 30 ลิตรกลายเป็น 360 ลิตร เมื่อพับเบาะก็จะเพิ่มเนื้อที่เป็น 1,200 ลิตร

โครงสร้างตัวถัง BMW 1-Series Modelchange ทำจากวัสดุน้ำหนักเบา ทนต่อการบิดตัวสูงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มคุณภาพการบังคับควบคุม รวมทั้งออกแบบบริเวณรองรับแรงกระแทกให้มีความยืดหยุ่นสูง

ภายในห้องโดยสาร BMW 1-Series Modelchange มีความสดใส อ่อนเยาว์ ให้ความรู้สึกทันสมัย เน้นความกว้างขวางและคุณภาพวัสดุภายในมากขึ้น ตำแหน่งผู้ขับขี่รู้สึกถึงการใช้งานเน้นศูนย์กลางมากกว่ารุ่นที่แล้ว คอนโซลกลางติดตั้งหน้าจอสัมผัสสั่งการ i-Drive ขนาด 6.5 นิ้วหรือ 8.8 นิ้วให้เลือก

เครื่องยนต์กลไกแทบจะยกเทคโนโลยีจาก Mini Coupe มาบรรจุลงในรถคันนี้เริ่มจาก BMW 118i ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน TwinPower 1.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จแบบ Twin Scroll พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดแรงดันสูง, ระบบวาล์วแปรผัน ValveTronic และ Double Vanos ให้กำลัง 170 แรงม้าที่ 4,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 25.49 กิโลกรัมเมตรที่ 1,500-4,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลือง 5.8-5.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 134-137 กรัมต่อกิโลเมตร

BMW 118i ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน TwinPower 1.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จแบบ Twin Scroll พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดแรงดันสูง, ระบบวาล์วแปรผัน ValveTronic และ Double Vanos ให้กำลัง 136 แรงม้าที่ 4,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 22.43 กิโลกรัมเมตรที่ 1,350-4,300 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลือง 5.5-5.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 129-132 กรัมต่อกิโลเมตร

BMW 120d  ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล TwinPower 2.0 ลิตร 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 38.74  กิโลกรัมเมตรที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 228 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลือง 4.5-4.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 119-122 กรัมต่อกิโลเมตร

BMW 118d  ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล TwinPower 2.0 ลิตร 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 32.63  กิโลกรัมเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 212 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลือง 4.4-4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 115-118 กรัมต่อกิโลเมตร

BMW 116d  ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล TwinPower 2.0 ลิตร 116 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 26.51  กิโลกรัมเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 10.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลือง 4.3-4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 114-114 กรัมต่อกิโลเมตร

ทุกรุ่นเครื่องยนต์จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะจาก ZF และมีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะให้เลือก และติดตั้งเทคโนโลยี Start-Stop เพื่อเพิ่มความประหยัดและลดมลภาวะ

ไฮไลต์สำคัญคือระบบ BMW ConnectedDrive ที่ติดตั้งระบบป้องกันความปลอดภัยต่าง ๆ อาทิ ไฟหน้าชนิดเลี้ยวตามองศาการบังคับรถได้, ระบบเตือนเมื่อรถเข้าเลนส์ผิด เป็นต้น โดยประมวลผลจากจุดรับข้อมูล ได้แก่ กล้องจับภาพหรือเซ็นเซอร์เพื่อหลีกเลี่ยงการชนรถยนต์รอบข้าง นอกจากนี้ยังอนุญาตให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพากชั้นนำอย่าง iPhone หรือสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานผ่านหน้าจอได้ และสามารถดึงข้อมูลการจราจรแบบสด ๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตอย่างไม่จำกัด

กำหนดวางจำหน่าย BMW 1-Series Modelchange อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2011 ในตลาดยุโรปก่อน ส่วนตลาดภูมิภาคอื่นคาดว่าน่าจะเริ่มทำตลาดตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้น