Mercedes-Benz B-Class Modelchange จะต้องเปิดเผยโฉมก่อน A-Class Modelchnage อย่างน่าประหลาดใจอาจเป็นเพราะ A-Class โฉมใหม่จะต้องปรับภาพลักษณ์รูปลักษณ์ตัวรถภายนอกใหม่จากมินิแวนขนาดย่อมให้กลายเป็นรถซับคอมแพคท์ทรงร้อนแรงแทน ภาระหน้าที่ของ B-Class โฉมใหม่ก็คือการตอกย้ำความอเนกประสงค์ของตัวรถเช่นเคย
รายละเอียดสำคัญของ Mercedes-Benz B-Class โฉมใหม่ก็คือการหันไปหาพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าแบบธรรมดา ๆ เรียกว่า MFA แทนที่พื้นตัวถังแซนด์วิช 3 ชั้นซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่สูงอีกทั้งยังมีจุดศูนย์ถ่วงสูงเกินไป ก็ไม่แปลกใจเท่าไรนักที่ Mercedes-Benz หันมาใช้พื้นตัวถังแบบธรรมดา ๆ นี้ เพราะปัจจุบันการออกแบบให้รถยนต์มีความปลอดภัยสูงขณะชนล้ำหน้ากว่า 10 ปีก่อนมากแล้ว พื้นตัวถังแบบแซนด์วิชจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป
พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าแบบใหม่ MFA นอกจากจะเตรียมใช้กับ B-Class โฉมใหม่แล้วยังจะเตรียมนำไปใช้กับ A-Class โฉมใหม่ในปี 2012 รวมถึงรถเอสยูวีและซีดานขนาดเล็กรุ่นใหม่ด้วย
พื้นตัวถัง MFA ไม่เพียงแค่รองรับเครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างเดียวเท่านั้น ยังรองรับเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้า, มอเตอร์ไฟฟ้าพ่วงเครื่องยนต์สันดาปภายใน Extended Range EV, และ Fuel Cell
มิติตัวถังของ Mercedes-Benz B-Class โฉมใหม่ จะไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมากนักรวมไปถึงตำแหน่งการขับขี่ที่ยังสูงเหมือนเคย สิ่งที่เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นชัดเจนก็คือเนื้อที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางขึ้น เนื่องจากพื้นรถต่ำลง คุณภาพวัสดุภายในก็ดีขึ้นมากเพราะยกชุดชิ้นส่วนบางชิ้นจาก C-Class ดีไซน์ภายนอกก็จะได้รับอิทธิพลจากรถต้นแบบ F800
เครื่องยนต์กลไก Mercedes-Benz B-Class โฉมใหม่จะใช้เทคโนโลยีในบ้านตนเองและหยิบยืมจาก Renault มาใช้อีกด้วย ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร เทอร์โบชาร์จ, 1.4 ลิตร, 1.8 ลิตรและเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตรจาก Renault, ดีเซล 2.2 ลิตรโดย Mercedes-Benz จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 6 จังหวะแทนที่เกียร์ CVT
กำหนดการเปิดตัว All New Mercedes-Benz B-Class อดใจรอในงาน Frankfurt Motorshow ปี 2011