บางครั้งเมื่อเราหยิบหนังสือพิมพ์หน้า 1 ในช่วง 10 กว่าปีก่อน เราก็แอบเศร้าใจกับข่าวร้ายบางข่าว เมื่อผู้ปกครองเผลอขับ
รถถอยหลังไปทับบุตรหลานธิดาตัวน้อยจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต (แต่ส่วนใหญ่เสียชีวิตเสียมากกว่า) และเมื่อเรา
เปรียบเทียบกันในวันนี้ เราก็แทบจะไม่พบเหตุการณ์ถอยหลังทับเด็กเท่าไร นั่นเป็นเพราะว่า พวกเรามีเทคโนโลยีที่ช่วย
อำนวยความสะดวกในการช่วยจอดถอยหลังและช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางได้ง่ายดายกว่าเดิมมากนั่นเอง

ประเทศโลกที่ 1 อย่างสหรัฐอเมริกาก็มีความเป็นห่วงเป็นใยต่อคุณภาพชีวิตประชาชนจึงทำให้คณะกรรมการความ
ปลอดภัยทางหลวงแห่งชาติหรือ National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) ได้ออกกฎบังคับเลย
ว่ารถยนต์รุ่นใหม่ทุกรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาจะต้องติดตั้งกล้องส่องถอยหลังทุกคันภายในปี 2018

คณะกรรมการความปลอดภัยทางหลวงแห่งชาติได้ยื่นมติร่างกฎนี้มาตั้งแต่ปี 2010 จนสามารถบังคับใช้ได้ภายในเดือน
พฤษภาคมปี 2018 ซึ่งรถยนต์ระหว่างรถยนต์ส่วนบุคคลจนไปถึงรถบรรทุกที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 10,000 กิโลกรัมทุกคัน
จะต้องติดตั้งกล้องส่องถอยหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

และเมื่อสำรวจรถยนต์ที่อยู่บนโชว์รูมในตอนนี้ก็พบว่า รถยนต์รุ่นปี 2014 ก็ได้ติดตั้งกล้องส่องถอยหลังประมาณครึ่งหนึ่ง
ของทั้งตลาดแล้ว

กฎข้อบังคับจะค่อย ๆ บังคับให้ผู้ผลิตติดตั้งกล้องส่องถอยหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนรุ่น
ทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคมปี 2016 ยกเว้นค่าย Ferrari ที่จะข้ามการใช้กฎเฟสแรกไปก่อน หลังจากนั้นภายในเดือน
พฤษภาคม 2017 ผู้ผลิตจะต้องติดตั้งกล้องส่องถอยหลังในสัดส่วน 40% ของจำนวนรุ่นทั้งหมด ในปีต่อมาก็ต้องติดตั้ง
กล้องส่องถอยหลังให้ครบทุกรุ่น

คณะกรรมการความปลอดภัยทางหลวงแห่งชาติหรือ National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA)
ได้เปิดเผยว่าในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากการโดนรถถอยหลังชนมากถึง 210 คน ส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็กและผู้สูงอายุ
และมีผู้บาดเจ็บมากราว 15,000 คน

ขนาดประเทศใหญ่ ๆ ที่มีอัตราผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตต่ำขนาดนี้ เขาก็ยังมียกระดับคุณภาพชีวิตดีขนาดนี้ ประเทศ
สารขัณฑ์ก็คงต้องรักษาชีวิตตัวเองกันต่อไปครับ

ที่มา : Wordlcarfans