โดยปกติแล้วการรับรู้ของคนทั่วโลกมักระลึกว่ารถญี่ปุ่นมักมีคุณภาพความน่าเชื่อถือสูงกว่าค่ายรถสัญชาติอื่นเสมอ ซึ่งรวม
ไปถึง Toyota/Lexus และ Honda/Acura ที่ได้รับการยกย่องว่ามีความน่าเชื่อถืออย่างยาวนาน เพียงแต่รถญี่ปุ่นทั้งหมด
มันจะมีความน่าเชื่อถืออย่างที่หลายคนคิด มันยังเป็นความจริงอยู่หรือเปล่า?

Renee Stephens รองประธานฝ่ายสำรวจวิจัยคุณภาพยานยนต์ประจำ J.D. Power กล่าวว่า Toyota และ Honda ถือ
เป็นค่ายรถญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเป็นผู้นำในด้านความน่าเชื่อถือและทนทานมาแต่ดั้งเดิม ยกตัวอย่างเช่น Lexus ค่ายรถหรูในเครือ
Toyota ก็มีอัตราส่วนค่าความทนทานตัวรถมากถึง 15 ในรอบ 18 ปีที่ผ่านมา

Stephens กล่าวว่าแต่ในปีหลัง ๆ มานี้ก็มีค่ายรถเริ่มพัฒนารถยนต์ให้มีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้
Daimler ก็เริ่มมีรถเข้าชาร์ตในด้านคุณงามความดีเข้ามาบ้าง ส่วน GM ก็ติดโผรถที่น่าเชื่อถืออันดับที่ 4 แต่ใช่ว่ารถญี่ปุ่น
จะมีค่าคะแนนตกลง เพียงแต่ว่าคู่แข่งเขาพัฒนาตัวจนได้ระดับความน่าเชื่อถือที่มากกว่าปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหา
ระบบอิเล็กทรอนิคส์และเทคโนโลยี ถ้าเป็นปีก่อนก็จะมีปัญหา 155 ปัญหาต่อ 100 คัน แต่เดี๋ยวนี้มีปัญหาลดลงเหลือ
เพียงแค่ 133 ปัญหาต่อ 100 กิโลเมตร

2014 12 24 Toyota

ปรากฏการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับวารสารเพื่อผู้บริโภค Consumer Report ด้วยเช่นกันที่แต่ละแบรนด์พยายามพัฒนาคุณภาพ
ความน่าเชื่อถือให้ดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่แบรนด์รถญี่ปุ่นยังครองความเป็นผู้นำด้านความน่าเชื่อถืออยู่ นั่นเป็นเพราะว่า
รถยนต์ที่ติดอันดับความน่าเชื่อถือสูง 10 อันดับมีค่ายรถญี่ปุ่นติดอันดับเข้าไปแล้วถึง 9 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Lexus,
Toyota, Mazda และ Honda ก็ครองอันดับ Top 4 แบบเบ็ดเสร็จแล้ว และถ้าเมื่อดูตารางรถที่น่าเชื่อถือทั้งหมดก็พบว่า
ค่ายรถญี่ปุ่นครองอันดับถึง 92% กันเลยทีเดียว

Anita Lam หน่วยข้อมูลยานยนต์ Consumer Report กล่าวว่า ผู้ผลิตรถญี่ปุ่นโดยรวมต่างก็ผลิตรถที่มีความน่าเชื่อถือ
สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Toyota และ Lexus แต่ไม่ได้หมายความว่ารถญี่ปุ่นทุกแบรนด์จะน่าเชื่อถือไปหมด

ตามการรายงานของผู้บริโภค ระบุว่า Nissan และ Infiniti กำลังประสบปัญหาความน่าเชื่อถือในปีนี้ Nissan Rogue
(X-Trail) ยังมีความน่าเชื่อถือตามค่าเฉลี่ย แต่ Nissan Altima (Teana), Pathfinder และ Sentra (Sylphy) มีผล
ออกมาแย่ ส่วน Infiniti ก็มีผลที่ไม่น่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะรุ่น Q50 และ QX60

แม้คะแนนความน่าเชื่อถือ Acura ลดต่ำลงในปีนี้เล็กน้อย แต่มันก็ยังมีรถที่น่าเชื่อถือมากอยู่ 2 รุ่นได้แก่ TL และ TSX ส่วน
RLX และ MDX ก็มีค่าเฉลี่ยระดับมาตรฐาน

Toyota และ Lexus มีเคล็ดลับอย่างไรที่จะทำให้รถของพวกเขามีความน่าเชื่อถือเฉลี่ยทั่วถึงกันซึ่ง Anita Lam ได้แสดง
ความคิดเห็นว่า “พวกเขาเน้นสร้างรถที่มีคุณภาพสูงมากกว่าที่จะสร้างความน่าตื่นเต้น” นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่รถ
Toyota/Lexus ถึงมีค่าคะแนนความเชื่อถือสูง

และพวกเขากลับนำเสนอเทคโนโลยีช้าและใช้พื้นตัวถังเก่าที่ได้รับการยืนยันว่ามันยังใช้งานได้ดีอยู่ ดังนั้นเราจึงเห็นรถยนต์
Toyota หลายรุ่นทั่วโลกยังใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะโบราณและเครื่องยนต์ที่ลากขายกันยาวนานหลายปี จึงโปรดสังเกต
ว่า Toyota/Lexus แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงในตัวผลิตภัณฑ์แบบกระชากโฉมอย่างรุนแรงเหมือนกับบางยี่ห้อ

แต่อย่างไรก็ตามรถที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุดก็ไม่ได้ถือเป็นรถที่น่าซื้อที่สุด ยกตัวอย่าง Scion xB ที่มีจุดด้อยด้านอัตรา
สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่แย่และระบบส่งกำลังที่ไม่ให้ความรู้สึกประณีต และเหตุผลเดียวกันนี้ก็ไปปรากฏใน Toyota Tundra
ซึ่งเป็นรถที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุดในหมวดรถกระบะ

ในทางกลับกัน ผู้ผลิตรายอื่นจะออกแบบรถรุ่นใหม่ให้มีเทคโนโลยีใหม่ แต่รถเหล่านี้ก็สร้างความปวดหัวให้แก่ผู้ใช้รถ แต่
อย่างน้อย ๆ ผู้ผลิตก็ยังหาทางปรับปรุงให้มีคุณภาพดีขึ้นในปีถัดไป

รถยนต์ Toyota เป็นรถที่ถูกแนะนำจากผู้ใช้รถมาเป็นระยะเวลายาวนาน แต่เชื่อหรือว่ารถ Toyota รุ่นใหม่ที่ขาย ๆ อยู่
ตอนนี้ “ไม่ได้ใหม่จริง” ยกตัวอย่าง 2015 Toyota Camry รุ่น Big Minorchange สำหรับตลาดอเมริกาเหนือที่ถึงขั้น
เปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ถึง 2,000 จุด ก็ยังใช้ระบบส่งกำลังเหมือนกับ Toyota Camry รุ่นปี 2007 อยู่

แม้แต่ Toyota Corolla โฉมใหม่ก็ยังใช้เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแบบเดิมเหมือนกับเจเนเรชั่นที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะมี
การปรับปรุงเป็นเครื่องยนต์ฉีดตรงและยังใช้เกียร์ CVT ก็ตาม

นั่นแสดงให้เห็นชัดว่าการชะลอการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีก็ทำให้ช่วยรักษาอัตราค่าความน่าเชื่อถือสูง

มีเพียงค่ายรถไม่กี่ค่ายที่มีความเคลื่อนไหวช้า เช่น ค่ายรถ Honda ก็มีความเคลื่อนไหวด้านเทคโนโลยีค่อนข้างช้าในรุ่นที่
เป็น Model Core นั่นก็ช่วยเกื้อหนุนให้รถของตนเองมีค่าความน่าเชื่อถือสูง

นอกจากนี้บริษัทก็ยังใช้เวลาและเงินทุนในการพัฒนางานวิศวกรรมที่สามารถใช้ได้อย่างยาวนาน แทนที่จะเร่งพัฒนา
เทคโนโลยีใหม่อย่างรวดเร็ว

Renee Stephens กล่าวสรุปทิ้งท้ายว่า ความจงรักภักดีที่มีต่อความน่าเชื่อถือและคุณภาพไม่ใช่แค่คุณสมบัติเฉพาะ แต่
มันคือความคิดที่สะท้อนถึงแบรนด์

ที่มา : Autoguide