ใช่ว่า Honda จะมีรถยนต์ไม่ประสบความสำเร็จหลายรุ่นเพียงแค่ค่ายเดียวเท่านั้น แต่ยังมีเพื่อนพ้องท้องเดียวกันอย่าง Nissan ร่วมวงปรึกษาปัญหาชีวิตเรื่องรถยนต์ของตนเองขายไม่ออกเช่นเดียวกัน เหตุการณ์สด ๆ ร้อน ๆ นั่นก็คือยอดขาย Nissan Cube ในยุโรปประสบความล้มเหลวอย่างหนัก เพราะมียอดขาย สวนทางกระแสชื่นชมในเอเชียราวฟ้ากับชั้นแม็กม่า
ล่าสุดผู้บริหาร Nissan นาม Mr. Al Castignetti ดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายขาย Nissan Motor ก็ออกมายอมรับแล้วว่าสาเหตุที่ทำให้ Nissan Sentra ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดสหรัฐอเมริกาก็คือดีไซน์ที่ไร้ความสวยเอาเสียเลย เรียกว่าตลอดเวลา 20 ปี Nissan ยังไม่อาจแก้เกมพลิกฟื้นตลาดรถคอมแพคท์ของตนกลับมาได้
อันที่จริง Nissan เคยเป็น 1 ในตองอูตลาดรถยนต์นั่งระดับคอมแพคท์จนมีชื่อเสียงยอมรับเท่า ๆ กับ Toyota Corolla ในระยะเวลาเกือบ 40 ปี รถรุ่นที่เคยโด่งดังคงหนีไม่พ้นตระกูล Sunny ขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นแรก ๆ รหัส B10 จนมาถึงขับหลังรุ่นสุดท้ายรหัส B310 ด้วยชื่ออันโด่งดังในไทยว่า Sunny City Boy
รถคอมแพคท์ของ Nissan ที่สร้างชื่อเสียงและยอดขายได้มากที่สุดเห็นทีจะปฏิเสธไม่ได้ว่า Nissan Sunny B11 ขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่นแรกเปิดตัวภายในปี 1982 ครั้งหนึ่งรถรุ่นนี้เคยได้รับการยอมรับอย่างสูงมากว่าเป็นรถที่ออกแบบสวยทันสมัย มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ขับขี่สบาย ภายใต้ราคาที่สมเหตุผลจนได้รับความนิยมทั่วโลกทั้งตลาดอเมริกา, ยุโรป, ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยและแน่นอนมันเป็นคู่แข่งที่สูสีกับ Toyota Corolla อย่างสมน้ำสมเนื้อ ณ วันที่ Honda Civic ยังไม่โดดเด่นเลย
จุดเปลี่ยนความตกต่ำตลาดรถคอมแพคท์ของ Nissan ก็คือการแนะนำ Nissan Sunny หรือ Sentra B13 ภายในปี 1990 ที่ดูเหมือนมีพัฒนาการดีขึ้นแต่เมื่อเจอคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Toyota Corolla โฉม 3 ห่วงและ Mitsubishi Lancer โฉม E-Car เปิดตัวในปี 1991 ทำให้สถานการณ์ Nissan Sunny B13 ต้องอยู่ในระยะมืดแปดด้านเพราะตัวรถแพ้คู่แข่งทุกประตูอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งด้านการออกแบบ, เนื้อที่ห้องโดยสาร, สมรรถนะเครื่องยนต์และอัตราสิ้นเปลือง เป็นต้น
นับตั้งแต่นั้น Nissan ก็ไม่เคยพัฒนารถยนต์ในตลาด C-Segment ได้โดนใจหรือถูกใจตลาดโลกได้อีกเลยนับแต่นั้นมา นี่จึงเป็นที่มาการเสื่อมความนิยมตลาดรถคอมแพคท์ Nissan ทั่วโลกจนถึงบัดนี้ แม้ Nissan ภายใต้การดูแลยุคคาร์ลอส กอส์น ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาความนิยมตลาดรถคอมแพคท์ได้เสียที แม้ยอดขาย Nissan Sentra กวาดยอดจำหน่ายในตลาดสหรัฐอเมริกา 9 พันคันต่อเดือนก็ตาม
Mr. Al Castignetti รองประธานฝ่ายการขาย Nissan Motor ออกมายอมรับแล้วว่า Nissan Sentra รถคอมแพคท์ซีดานที่มีขายเฉพาะตลาดอเมริกาเหนือและละตินบางประเทศไม่ประสบผลสำเร็จด้านยอดจำหน่ายเมื่อเปรียบเทียบกับ Toyota Corolla และ Honda Civic ก็เพราะดีไซน์ไม่สวยถูกใจลูกค้าชาวอเมริกาเอาเสียเลย
แม้ Nissan ยุคใหม่สามารถกอบกู้ชื่อเสียงด้านเทคนิคและเครื่องยนต์กลไกให้สามารถต่อกรกับคู่แข่งได้แล้ว ดั่งที่คนไทยพิสูจน์มาแล้วกับ Nissan Tiida แต่หัวใจสำคัญของยอดขายก็คืองานออกแบบอยู่วันยังค่ำ Nissan Sentra โฉมปัจจุบันยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่แท้จริงได้เลย
ลูกค้าชาวอเมริกันส่วนใหญ่มอง Nissan Sentra ด้วยภาพลักษณ์ที่สู้ชาวบ้านไม่ได้ ดีไซน์เหลี่ยม ๆ ขัด ๆ ไม่ลื่นไหลลงตัวทั้งภายนอกและภายในดูกระป๋องกระแป๋งเป็นที่สุด ที่สำคัญขนาดตัวรถดูด้วยตาเปล่าก็ยังดูเล็กกว่าคู่แข่งรายสำคัญอีกต่างหาก
Mr. Al Castignetti จึงเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า Nissan Sentra ตัวต่อไป (รหัสพัฒนา L12F) จะถูกย่อส่วนดีไซน์จาก Nissan Altima ซีดานรุ่นพี่ที่ขายดีเทียบชั้น Toyota Camry และ Honda Accord เพราะเชื่อว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Nissan Altima ขายดีนั้นก็เพราะดีไซน์ที่ดึงดูดมากนั่นเอง
ดูเผิน ๆ Nissan Sentra ได้รับอิทธิพลแนวดีไซน์จาก Nissan Altima มาบ้างแต่เมื่อพิเคราะห์ดูแล้วพบว่าไม่เหมือนกันเสียทีเดียว Nissan Sentra ถูกออกแบบเน้นความเหลี่ยมสัน สัดส่วนตัวรถสูงแต่ดูแคบ ส่วน Nissan Altima มีสัดส่วนที่สวยงามปราดเปรียวไร้โครงสร้างเหลี่ยมสันทื่อ เมื่อเทียบกับ Nissan Ellure ต้นแบบของ Nissan Sentra โฉมต่อไปรหัสพัฒนา L12F แล้ว Nissan Ellure ดูเป็นรถที่แทบเคาะสัดส่วนและรูปแบบจาก Nissan Altima ตามที่ผู้บริหารบอกจริง
Mr. Al Castignetti คาดหวังว่า Nissan Sentra ตัวต่อไปจะต้องเป็นรถที่ดึงดูดใจมากจนค่อนข้างมั่นใจว่าจะมียอดขายทัดเทียม Toyota Corolla และ Honda Civic ที่มียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 25,000 คันได้ หากทำสำเร็จก็เท่ากับว่า Nissan สามารถแก้ไขปัญหาความไม่นิยมตลาดรถคอมแพคท์ตลาดโลกลงอย่างราบคาบอันเป็นปัญหาเรื้อรังนานถึง 20 ปีได้สำเร็จ อย่างน้อย Nissan Sentra ตัวต่อไปจะมาทำตลาดรถคอมแพคท์แทนที่ Nissan Tiida ในไทยแน่นอน