ย้อนกลับไปช่วง Chevrolet Volt รถไฟฟ้าที่วิ่งได้ 40 ไมล์ต่อการชาร์จไฟบ้าน 1 ครั้ง พร้อมเครื่องยนต์ปั่นพลังงานไฟฟ้าในตัว ขยายระยะทางการวิ่งได้อีกพอสมควร ในตอนนั้น รถคันนี้ ถูกเปิดตัวพร้อมกับความหวังที่คุณ Bob Lutz ผู้บริหารของ GM เกริ่นเอาไว้ให้พวกเรารอว่ามันจะมีราคาราว 20,000-25,000 ดอลลาร์ถือว่าแพงกว่ารถคอมแพคท์คาร์ Colbalt ราคาเฉลี่ย 15,000 ดอลลาร์ไม่มากนัก
ส่วนต่าง Volt กับ Cobalt มีแค่ชุดแบตเตอรี่ที่ผลิตโดย LG Chem ราคาราว 8,000 ดอลลาร์เท่านั้น รวมทั้งรัฐจะคืนเงินภาษี 7,000 ดอลลาร์ให้ด้วยเมื่อซื้อรถไฟฟ้า เมื่อวางจำหน่ายก็คาดว่าทำให้ GM กลายเป็น 1 ในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเหมือนกับ Toyota
แต่แล้ว ราคาที่เคยประกาศดังกล่าว ก็กลายเป็นเพียงแค่ฝันกลางวันเมื่อ GM เผยแพร่ความจริงมาว่า Volt อาจจะมีราคา 43,000 ดอลลาร์เทียบเท่ากับ BMW 3-Series รุ่นออพชั่นสูง ๆ หรือได้ 5-Series รุ่นล่าง ๆ เทียบกับคู่แข่งก็มี Toyota Prius ราคา 22,000 ดอลลาร์
สิ่งที่เราทุกคน ลืมคิดไปนั้นคือชุดอุปกรณ์ขับเคลื่อน Volt แตกต่างจากรถเบนซิน 4 สูบมาก ต้องติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า,กล่องควบคุมคอมพิวเตอร์ ECU ,อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์,อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเติมประจุเข้าแบตเตอรี่ ล้วนต้นทุนสูงมากกันทั้งนั้น
การลดต้นทุนทั้งหมดจึงจำเป็นมากที่สุดในขณะนี้ ยิ่งก่อนวางจำหน่ายยิ่งดีใหญ่ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะลดการรับประกันแบตเตอรี่นาน 10 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรลงแต่นั่นไม่รับประกันว่าจะหั่นราคาลงได้มากน้อยแค่ไหน อีกวิธีคือการลดต้นทุนชิ้นส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบขับเคลื่อน
นั่นก็เป็นความท้าทายล่าสุดของ GM ที่ควรจะทำให้ได้เพื่อต่อกรกับ Nissan Leaf รถไฟฟ้าทั้งคันที่รับประกันราคาขายว่าไม่แตกต่างจาก C-segment มากนัก ไม่เช่นนั้น Volt อาจจะไม่ประสบความสำเร็จก็เป็นได้