ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เราได้นำเสนอกระแสข่าวยุติการผลิตรถยนต์ Mitsubishi Evolution รุ่นปัจจุบันภายในสิ้นปีนี้
แล้วก็ยังไม่มีความแน่ชัดว่า Mitsubishi ยังคิดจะสานต่อตำนานความแรงนี้ได้อีกตอนไหน? ทันใดนั้นก็ดันมีข่าวลือ
ออกมาอีกว่า Mitsubishi จะคิดรื้อฟื้นโครงการคูเป้ขนาดย่อม 300GT Successor ซึ่งคนที่เอ่ยปากก็ดันเป็นผู้บริหารใน
อังกฤษ จนยากที่จะไม่เชื่อ (ก็แหล่งข่าวเป็นระดับผู้บริหารขนาดนั้น สื่อบางคนคงไม่กล้าลบหลู่)
ถ้ามองกันตามหลักความจริงแล้วล่ะก็ Mitsubishi Motors กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ใหม่ จากเดิมที่จะ
เน้นการผลิตรถยนต์และรถเพื่อการพาณิชย์ที่ตนเองถนัดก็กลายเป็นว่าหันมาเน้นการผลิตรถกระบะ, เอสยูวีและรถ
พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก จนทำให้ขัดแย้งกับข่าวลือบางข่าว
และผู้ที่จะสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนมากที่สุดคงหนีไม่พ้นผู้บริหารสูงสุดของ Mitsubishi Motors อย่าง Osamu
Masuko ซึ่งเขาก็เพิ่งเปิดเผยประกาศแผนธุรกิจใหม่ให้ดีลเลอร์และสื่อมวลชนทั่วออสเตรเลียรับรู้กัน ในวันนั้น Osamu
Masuko ก็สามารถตอบคำถามที่คาใจให้แก่สื่อชาวจิงโจ้ที่สงสัยในบางประเด็นไปได้แค่เปลาะเดียว
สื่อมวลชนชาวออสซี่มักถามในประเด็นที่ทุกคนสงสัยมากหลายประการ เริ่มจากประเด็น Mitsubishi Lancer EX โฉม
ต่อไปมันจะมาตอนไหนกันแน่?ซึ่ง Osamu Masuko ก็แถลงไขให้ฟังจนได้ความว่า Mitsubishi ยังอยู่ในขั้นตอน
พิจารณาการพัฒนากันอยู่
ในเบื้องต้น Mitsubishi ก็กำลังเลือกแพลทฟอร์มจาก Renault-Nissan เพื่อมาต่อยอดให้กลายเป็นรถ C-Segment
และ D-Segment ของตนเอง แต่ที่แน่ ๆ คงจะไม่พัฒนาแพลทฟอร์มใหม่สำหรับรถยนต์นั่งรุ่นใหม่อย่างแน่นอน แต่เมื่อ
คาดคั้นถามลงไปลึก ๆ เขาก็สารภาพออกมาว่า ตอนนี้ Mitsubishi ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกแพลทฟอร์มอันไหนเลยเพราะ
อยู่ในขั้นตอนการศึกษาสถานการณ์รอบด้านอยู่เพื่อให้การผลิตรถ C-Segment คันใหม่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
Osamu Masuko ก็สารภาพว่าเขาเองก็ไม่อยากใช้เวลาพิจารณานานเกินไป และยังสารภาพอีกว่า Mitsubishi จะต้อง
เคาะแผนรถ D-Segment ที่หยิบยืมมาจาก Renault-Nissan ให้แน่ชัดเสียก่อน หลังจากนั้นจึงจะไปเคาะแผนการผลิต
C-Segment หรือ Lancer EX รุ่นต่อไปได้
สาเหตุที่เร่งการพิจารณาแผนการทำรถ D-Segment แซงหน้าแผนการพิจารณารถ C-Segment ก่อน นั่นเป็นเพราะว่า
ในตอนนี้ Mitsubishi ไม่มีรถ D-Segment ขายในทั่วโลกเลย หลังจากที่ตัดสินใจให้ Galant สาบสูญไปจากตลาดในปี
2012
ข่าวต่อมา Mitsubishi Evolution จะหยุดผลิตจริงภายในปี 2014 แต่ตัวตายตัวแทนของ Evo กลับไม่ใช่ซีดานพลังแรง
หรือรถสปอร์ตคูเป้สุดเฟี้ยว แต่กลับจะผลักดันรถยนต์ที่ลูกค้าที่ต้องการจะซื้อแทน หมายความมันต้องไม่ใช่รถแนวคูเป้,
ไม่ใช่รถแนวแฮทช์แบคขนาดเล็กแต่เป็นรถแบบเอสยูวี
Osamu Masuko เปิดเผยว่าคำนิยามของเอสยูวีกำลังค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป เขาคิดว่าเส้นกั้นระหว่างรถแบบ
Evolution และ SUV จะถูกทลายลงไป
รถเอสยูวีที่ Mitsubishi จะนำมาเป็นจุดขายสำคัญเพื่อแทนที่รถตระกูล Evolution ก็คือเอสยูวีที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานรถ
ต้นแบบ XR-PHEV Concept ติดตั้งขุมพลัง plug-in hybrid เครื่องยนต์สันดาปภายใน 1.1 ลิตรฉีดเชื้อเพลิงตรง 100
กิโลวัตต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 120 กิโลวัตต์ รวมพลังกันได้ประมาณ 320 แรงม้า
แน่นอนว่ารถแนวคิดดังกล่าวมันก็คือ Mitsubishi ASX โฉมต่อไปที่มีแนวโน้มว่ารุ่น plug-in hybrid อาจจะสวมชื่อ
Evolution
Osamu Masuko ก็ตอกย้ำในงานประชุมที่ออสเตรเลียว่า Lancer Evolution โฉมต่อไปไม่ได้อยู่แผนในใจเลย เพราะ
Mitsubishi มีเทคโนโลยี PHEV ที่โดดเด่น พวกเขาก็กำลังท้าทายในตลาดเอสยูวีและจะท้าทายในวงการมอเตอร์สปอร์ต
ด้วยการส่งรถไฟฟ้าไปลงแข่งนับจากวันนี้เป็นต้นไป
และข่าวสุดท้ายคือ All New Mitsubishi Triton Hybrid ที่แต่เดิมเคยมีข่าวมาว่าจะนำเสนอขุมพลัง Plug-in Hybrid นับจาก
เปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์ปกติไปแล้ว 18 เดือน แต่ข่าวล่าสุดก็มีความเปลี่ยนแปลงให้ได้ยินมาว่า Mitsubishi จะส่ง Triton
Hybrid แน่แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้
Osamu Masuko ประธานใหญ่ก็ตอบชัดเจนว่าทีมงานจะต้องพิจารณาแผนขั้นตอนสุดท้ายของ Triton Hybrid ให้จบ
ภายในปี 2015 สาเหตุที่ต้องถกกันจนถึงหลานบวชนั้นก็เพราะว่า Mitsubishi ซีเรียสมากหาก Triton Hybrid จะใช้ขุม
พลัง Hybrid แบบธรรมดา ๆ แทนที่จะเป็นระบบ Plug-in Hybrid EV (PHEV) อันเป็นจุดขายสำคัญหลักของแบรนด์
Mitsubishi Motors ในวันนี้
Osamu Masuko ก็ยอมรับว่าระบบ Plug-in Hybrid มีต้นทุนที่สูงซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็นจาก Outlander PHEV ที่มี
ราคาแพงกว่ารถ Hybrid ทั่วไป แต่นี่มันคือ Mitsubishi Triton เป็นรถเพื่อการพาณิชย์ที่ราคาขายนั้นสำคัญมาก ถ้าพูด
อย่างตรงไปมา ระบบ Hybrid สามารถทำให้ถูกลงได้ ดังนั้น Mitsubishi จึงต้องขอเวลาพิจารณากันนานเสียหน่อย
ส่วนช่วงเวลาในการเปิดตัวจะไม่มาพร้อมกันกับ Triton เครื่องยนต์มาตรฐานในช่วงแรกและยังคงไม่มาในเร็ว ๆ นี้แน่
เพราะตอนนี้พวกเขายังไม่ตัดสินใจเคาะอะไรเลย และก็ยังมีความเป็นไปได้อาจจะเป็นเบนซิน Hybrid หรือดีเซล Hybrid
ก็ได้
และ Osamu Masuko ก็พูดติดตลกว่าถ้าตลาดออสเตรเลียมีความต้องการรถ Hybrid มากพอก็จะเดินหน้าทำไปเลย
หลังจากอ่านความเคลื่อนไหวจากนายใหญ่ Mitsubishi Motors ก็น่าจะเคลียร์ทุกประเด็นที่ไม่ค่อยจะเคลียร์กันครับ