ในปัจจุบัน ประเทศจีนนับเป็นประเทศหนึ่งที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงมากในโลก และนับตั้งแต่
ประเทศจีนได้มีการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ก็ส่งผลทำให้ชาวจีนตามเมืองใหญ่ๆ มีความเป็นอยู่ดีที่ขึ้น
และนั่นก็ทำให้กำลังซื้อมีเพิ่มมากขึ้นด้วย นับตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงสังหาริมทรัพย์ ไม่เว้นแม้กระทั่ง
รถยนต์ ที่ชาวจีนกำลังให้ความสนใจกันอย่างมาก จึงทำให้ตลาดรถยนต์มีการเติบโตมากขึ้นไปด้วย และนั่น
ก็ทำให้ค่ายรถยนต์จากทั่วโลก ต่างก็สนใจที่จะไปลงทุนในประเทศจีนกันมากมายทีเดียว
 
 
ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน ก็ได้มีการพัฒนาและสร้างรถยนต์โดยใช้ชื่อของตนเองออกมาหลายยี่ห้อ 
ทางรัฐบาลของประเทศจีน ก็มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถยนต์รูปแบบใหม่ๆออกมา ซึ่งเทคโนโลยีของรถยนต์
ที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ก็คือรถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์ Hybird หรือจะเป็น
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนก็ตามที และนั่นก็ทำให้ทางรัฐบาลจีนออกมาประกาศว่า ทางกระทรวงอุตสาหกรรม
ของประเทศจีน ได้ประกาศแผนการพัฒนารถยนต์ Hybrid และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนของจีน ให้สำเร็จ
ภายใน 10 ปี มูลค่าของโครงการนี้อยู่ที่ราวๆ 1 แสนล้านหยวน หรือ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว
และมีเป้าหมายที่จะผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกเหล่านี้ให้ถึง 3 ล้านคันภายในปี 2020
แต่ทว่า การที่ประเทศจีนจะผลิตรถยนต์ Hybrid หรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนเองนั้น จะต้องมีตัวช่วยมาช่วย
ในการพัฒนาอีกด้วย และนั่นก็ทำให้ทางรัฐบาลจีนออกมาประกาศเหมือนเป็นการมัดมือชกกลายๆว่า ค่ายรถยนต์
จากต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศจีน จะต้องมีการนำเทคโนโลยีด้านระบบ Hybrid และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ล้วนมาแชร์กับค่ายรถยนต์ในประเทศจีนด้วย เสมือนว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกัน ทางค่ายรถยนต์ต่างชาติ ก็นำ
เทคโนโลยีมาให้กับทางจีน ส่วนทางจีน ก็นำไปพัฒนาต่อทำให้จีนสามารถผลิตรถยนต์ดังกล่าวได้เอง และจาก
ที่มีข่าวนี้ออกมา ค่ายรถยนต์ต่างชาติที่จะเข้าไปลงทุนต่างก็ออกอาการผวาอยู่ประมาณหนึ่ง เพราะถ้าหากเป็น
เช่นนี้ ทางจีนอาจจะเข้ามาแทรกแซงในเรื่องของการพัฒนารถยนต์ระบบดังกล่าว ซึ่งพวกเขาก็เป็นผู้ที่คิดค้นขึ้น
มาเอง และนั่นก็อาจจะเกิดผลที่ไม่ดีตามมาได้
นับได้ว่าประเทศจีนนั้นกำลังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศเลยก็ว่าได้
แต่การใช้วิธีนี้ จะส่งผลต่อค่ายรถยนต์จากต่างชาติอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป
————————————————–//————————————————–
source:Automotivenews.com