อันที่จริงการที่ Microsoft ลงเล่นตลาดระบบปฏิบัติการควบคุม Interface (หน้าจอควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ภายในรถยนต์ อาทิ ชุดเครื่องเสียง, ระบบปรับอากาศ หรือแม้กระทั่งระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและบลูทูธ) สำหรับรถยนต์มาตั้งแต่ปี 2007 แล้วใช้ชื่อว่า Windows Embedded Automotive โดยมีรถยนต์แบรนด์ Ford เป็นผู้นำระบบดังกล่าวมาใช้เป็นรายแรก ๆ

ช่วงแรก ๆ อาจจะดูไม่จริงจังมากนักเพราะเป็นช่วงเริ่มทดลองระบบนี้ขั้นกลางเท่านั้น อีกทั้งรถยนต์ Ford ที่นำมาทดสอบก็ยังเป็นรุ่นที่จำหน่ายในตลาดสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ในเมื่อรถยนต์ยุคใหม่เติบโตกับผู้ใช้ยุคใหม่พกอุปกรณ์พกพาหรือ Gadget มากขึ้นจึงไม่แปลกใจเลยว่า Microsoft จะต้องเอาจริงกับระบบปฏิบัติการสำหรับรถยนต์ยุคใหม่แล้ว

ล่าสุด Microsoft เปิดตัวระบบปฏิบัติการควบคุม Interface สำหรับรถยนต์ภายใต้ชื่อว่า Windows Embedded Automotive 7 น่าจะถือเป็นตระกูล “7” ล่าสุดต่อจากระบบปฏิบัติการ Windows 7 สำหรับเจาะตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและ Windows Phone 7 สำหรับสมาร์ทโฟนท้าชน iOS จาก Apple

Microsoft นิยามความสามารถระบบปฏิบัติการควบคุม Interface นี้ว่า “Infotainment” ให้ได้ทั้งการติดต่อสื่อสาร, ความบันเทิง, ระบบนำทางและข้อมูลการให้บริการภายใต้ระบบเดียว ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่นับวันเริ่มเข้าถึง Multimedia, ติดต่อเพื่อบริการบันเทิง รวมไปถึงการสื่อสารภายในรถยนต์

จุดเด่นสำคัญของระบบปฏิบัติการควบคุม Interface นี้คือการติดตั้งระบบคำสั่งด้วยเสียง ( ใช้เทคโนโลยีจาก TellMe ระบบเดียวกับที่ติดตั้งใน Windows Phone 7 ซึ่งว่ากันว่ามีความแม่นยำสูง), การใช้งานจอสัมผัสโดยใช้พื้นฐานเทคโนโลยี Silverlight Technology ซึ่งคล้าย ๆ กับจำพวก Flash ของ Adobe, การเชื่อมต่อ Bluetooth, สามารถเข้าถึงการเล่นเพลง แผนที่ แอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งเองเพิ่มเติม และระบบนำทาง

จุดเด่นของ Windows Embedded Automotive 7 ก็คือการใช้งานที่ครอบคลุมไปถึงสภาวะการนั้น ๆ โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์สามารถพัฒนาระบบปฏิบัติการนี้ให้เข้ากับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น

ท้ายที่สุด Microsoft ก็ประสบความสำเร็จในการบุกเบิกตลาดระบบปฏิบัติการควบคุม Interface สำหรับรถยนต์จนได้ เพราะบัดนี้พันธมิตรค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่เริ่มพร้อมใจกันใช้ Windows Embedded Automotive 7 กันคับคั่ง ไล่ตั้งแต่ค่ายขาประจำอย่าง Ford, Kia, Fiat และ Nissan ต่างพากันนำระบบนี้ไปติดตั้งในรถยนต์รุ่นใหม่ของตนทั้งนั้น

ที่จริง Microsoft ถือว่ามีความฉลาดหลักแหลมมากและทันเกมของ Google พอสมควร เพราะบัดนี้ Google ยังแค่เริ่มบุกตลาดระบบปฏิบัติการสำหรับรถยนต์แล้ว ขณะที่ Microsoft พัฒนาตัวได้รวดเร็วกว่าพอสมควร

แต่ขออย่างเดียวถ้า Microsoft จะพัฒนาซอฟท์แวร์การเชื่อมต่อทั้งคัน โปรดอย่างแฮงค์หรือ Error เด็ดขาดจนต้องให้ผู้ใช้กด 3 ปุ่มมหัศจรรย์เชียวนะครับ