ตอนนี้ก็เป็นที่รู้กันว่า Nissan GT-R เจเนเรชั่นต่อไปที่จะปรากฏตัวภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจะได้รับการติดตั้งขุมพลังสุด
แซบระบบ Hybrid (อาจมีชื่อเครื่องหมายทางการค้าว่า R-Hybrid) ที่จะทำให้ GT-R โฉมใหม่แรงขึ้นกว่าปัจจุบันอย่าง
เห็นได้ชัดขณะเดียวกันก็จะทำให้ GT-R มีค่าไอเสียที่ไม่พุ่งสูงจนทำให้คิดอัตราภาษีคาร์บอนเครดิตแพงจนเกินไปตามแต่
ละประเทศ แต่จะดีกว่านี้ไหม? ที่พวกเราจะได้รู้กันว่า Nissan GT-R Hybrid แรงถึงขนาดไหน
ข่าวล่าสุดจากแหล่งวงในระดับ Exclusive ยืนยันว่า Nissan GT-R Hybrid จะมีพละกำลังสูงมากถึง 800 แรงม้าเพื่อ
ยกระดับการท้าชนกับ Honda NSX, Ferrari LaFerrari, McLaren P1 และ Porsche 918 Spyder ซึ่ง Taro
Tsujimoto ผู้อำนวยการฝ่าย Nismo ก็ยังยืนยันว่า Nissan GT-R คือสุดยอดรถสปอร์ตที่มีประสิทธิภาพเทียบกับรถที่
แพงกว่า แต่จ่ายในราคาที่คุ้มค่ากว่า
ปรัชญาของทีมพัฒนา 2016 Nissan GT-R Hybrid ก็จะต้องรักษาคุณสมบัติของ GT-R R35 รุ่นปัจจุบันเอาไว้แต่จะ
ประยุกต์นำเทคโนโลยีจาก Delta Wing และ Leaf Nisno RC มาใช้ก่อให้เกิดสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น
จุดเด่นของ Nissan GT-R Hybrid จะต้องเป็นรถที่มีน้ำหนักเบาแม้ว่าจะมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบใหม่ในชื่อ ATTESSA
II Electric-All-Wheel Drive ก็ตาม ด้านขุมพลังก็ไหว้วานเครื่องยนต์ V6 3.8 เทอร์โบคู่ที่ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังมาจับคู่
กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้า แถมยังถ่ายทอดแรงบิดได้อิสระในแต่ละล้ออีกด้วย จนทำให้มีพละกำลัง
โดยรวมมากถึง 800 แรงม้า แรงบิด 847 ลูกบาศก์เมตร
เทคโนโลยีการหั่นน้ำหนักตัวรถก็ถือว่าหน้าดำคร่ำเครียดกว่าที่คิดเพราะทีมวิศวกร Nissan เล่นตัดทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่า
ทำให้ตัวรถหนักออกไปแม้กระทั่งตัวกรองอากาศเครื่องยนต์, หน้าจอเนวิเกเตอร์, กล่องเก็บก็ต้องทำมาจากวัสดุเทอร์โม
พลาสติก โอเลฟินที่ขึ้นโมลด์ด้วยการฉีดขึ้นรูป
ในเบื้องต้น Nissan GT-R Hybrid จะมีอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 2.5 วินาที แต่เมื่อกดโหมด Ultra
Attack Mode (วงในจะเรียกโหมดนี้ว่า Yamato Mode) เป็นโหมดที่ช่วยบูสท์เทอร์โบ, เปลี่ยนการใช้กำลังจากแบตเตอรี่
ไปยัง Supercapacitor ก็จะทำให้มีอัตราเร่งที่ดีกว่าเดิมจนทำให้มีอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ภายในแค่ 1.8
วินาที แซง Chevrolet Camaro Z06 ได้
ถึงรถยังไม่เปิดตัว แต่มันก็น่าตื่นเต้นมากว่า Nissan ก็จะเผยรายละเอียดบางอย่างของ GT-R Hybrid ในงาน New York
Autoshow 2014 นี้อีกด้วย
แค่ได้ยินข่าวก็รู้สึกว่าเผ็ดแซบแล้วล่ะ
ที่มา : Motortrend