เห็นด้านหน้าเต็ม ๆ กับ Toyota Fortuner Modelchange ที่นี่ที่เดียว

ต่อให้หลายคนพยายามยิงภาพสปายของ All New Toyota Fortuner ลงเว็บแทบจะเป็นรายวัน ก็เปรียบเสมือนเรากำลังนั่งดูสาวร่างปริศนาที่ถูกจับมัดด้วยผ้าสีดำทึบ มีอยู่คำถามเดียวคือ พอเปิดหน้าแล้วสาวผู้นี้จะทำให้เราตกใจสุดขีดหรือหลงรักสุดพลังกันแน่? ถ้าเป็นอย่างนั้น เรามาเปิดผ้าคลุมใบหน้าสาวผู้นี้กันเลย ดีไหมครับ?

นับ
1
2
3
….

..

.

Toyota Fortuner Modelchange

และนี่ก็คือโฉมหน้า All New Toyota Fortuner แบบ “ไร้สิ่งปกคลุมใด” ออกหมดเกลี้ยง เห็นแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง
ครับ? อึ้ง ทึ่ง เสี่ยวกันไหมครับ

เมื่อพิจารณาจากเบ้าหน้าของมันก็พบว่า Toyota Fortuner Minorchange ยัง “เกาะติด” อิทธิพลงานออกแบบจาก
Lexus RX อยู่เช่นเคย ถ้าเป็น Toyota Fortuner รุ่นปัจจุบันก็มีการหยิบยืมสัดส่วนตัวถังของ Lexus RX เจเนเรชั่นแรก
มาขัดเกลาจนลงตัวยิ่งกว่าต้นฉบับเสียอีก

Toyota Fortuner Modelchange ได้หยิบยืมงานการดีไซน์ด้านหน้าจาก Lexus RX เจเนเรชั่นปัจจุบัน (ที่กำลังจะตกรุ่น
อีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า!!!) และ Lexus NX บางส่วน ได้แก่ การออกแบบไฟหน้าที่เพรียวเฉียงล้ำสมัยซึ่งถ้าพูดกันตามตรงคือทีม
ออกแบบพยายามเกลาโคมไฟหน้าให้ดูทันสมัยและลงตัวยิ่งกว่า Lexus RX และมองอีกมุมก็ดูเหมือนขอหยิบโคมไฟหน้าจาก
Lexus NX แล้วจับมายืดขยายออกไป (และมีความเป็นไปได้สูงมากว่า ทิศทางการออกแบบไฟหน้าแบบนี้จะเห็นได้จาก
All New Mitsubishi Pajero Sport จนกลายเป็นพี่น้องสองศรีแท็กทีมกันถล่มให้ PPV ที่เหลือกลายเป็นรถตกยุคไป
ข้าง)

กระจังหน้า Toyota Fortuner โฉมใหม่บอกได้เลยว่าติดเชื้อมาจากกระจังหน้า Spindle Grille จาก Lexus แต่ทีม
ออกแบบขัดเกลาให้มีความลงตัวและดูบึกบึนมากกว่าต้นฉบับ ส่วนช่องไฟตัดหมอกหน้าก็ดูออกแบบให้ดูหรูขึ้น

โดยรวมการออกแบบภายนอกของ Toyota Fortuner โฉมใหม่ เน้นความพรีเมี่ยมที่แตกต่างจากเอสยูวีพื้นฐานรถกระบะ
พอสมควร เป็นความท้าทายใหม่ของ Toyota ที่พยายามสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการออกแบบเอสยูวีสำหรับ
ตลาดประเทศกำลังพัฒนาด้วยการออกแบบให้พรีเมี่ยมจนเทียบเท่ากับ Lexus ซึ่งไม่เคยมียี่ห้อไหนทำมาก่อน

ขุมพลัง All New Toyota Fortuner จะยกชุดเครื่องยนต์จาก Toyota Hilux เจเนเรชั่นใหม่ที่คาดว่าจะเป็นเอสยูวี
พื้นฐานกระบะที่แรงที่สุดในตลาด เพื่อเอาใจราชสีห์เท้าหนัก

Toyota Fortuner Modelchange จะถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยในช่วงกลางปีนี้

เครดิตภาพ : ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม via Moo Cnoe