ถึงแม้ว่าเราเคยอ่านบทความที่วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เคยทำงานกับ Toyota Motor Corporation แสดงความคิดว่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) น่าจะยังไม่ได้รับความนิยมภายใน 10-20 ปีนี้ และยังเชื่อมั่นว่ารถยนต์ Fuel Cell และรถยนต์ Hybrid จะได้รับความนิยมมากกว่า (อ่านบทความเต็ม คลิ๊ก)
แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปจนคาดไม่ถึงจึงทำให้ Toyota Motor Corporation จำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วถึงขั้นเร่งบริษัทร่วมทุนที่มีการลงขันภายในกลุ่มบริษัทในเครือ Toyota Motor อันประกอบไปด้วยบริษัท Toyota Industries Corporation, บริษัท Aisin Seiki, บริษัท Denso Corporation และบริษัท Toyota Motor Corporation เพื่อนำทรัพยากรและความเชี่ยวชาญทั้งหมด เร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อคนยุคทศวรรษใหม่ โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวนี้เริ่มดำเนินการไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2016 (อ่านบทความเต็ม คลิ๊ก)
(ภาพประกอบข่าว)
ถึงแม้จะมาช้า จนคู่แข่งอาจไหวตัวทัน แต่ Toyota Motor Corporation ก็ไม่ทำให้ผู้ที่รอคอยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ต้องผิดหวัง เพราะ Toyota ขอใช้เวลาในการพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่ดีกว่า Lithium-ion ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน
หนังสือพิมพ์รายวัน Chunichi Shimbun ประเทศญี่ปุ่นรายงานว่ารถยนต์ไฟฟ้า Toyota ที่จะเปิดตัวในปี 2022 จะติดตั้งแบตเตอรี่ชนิดแข็ง All-Solid-State ที่คาดว่ามันจะกลายเป็นแบตเตอรี่แห่งอนาคต เพื่อมาแทนที่แบตเตอรี่ Lithium-ion และนั่นจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้า Toyota มีระยะทางวิ่งสูงสุดที่ไกลขึ้น และช่วยร่นระยะเวลาในการชาร์จประจุแบตเตอรี่ให้สั้นลง
(เปรียบเทียบหลักการทำงานระหว่างแบตเตอรี่ Lithium-ion และแบบ All-Solid-State)
คุณสมบัติแบตเตอรี่ All-Solid-State พื้นฐานจะมีส่วนประกอบภายในแบตเตอรี่ที่เป็นวัตถุแข็ง (glass electrolyte) แตกต่างจากแบตเตอรี่ Lithium-ion ที่เป็นวัตถุเหลวเป็นส่วนประกอบ ส่งผลให้มีความจุไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แต่ขนาดแบตเตอรี่กลับลดลง เพราะมวลวัตถุแข็งในแบตเตอรี่ชนิดใหม่จะมีความหนาแน่นกว่าวัตถุเหลว ลดอาการเสื่อมของแบตเตอรี่ และลดการเกิดประจุไฟฟ้าที่ไม่เสถียร
ที่สำคัญแบตเตอรี่ชนิดใหม่นี้จะไม่ลุกไหม้หรือเกิดการระเบิดด้วยตนเอง และยังสามารถทำงานในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสได้อีกด้วย
ผู้ที่คิดค้นแบตเตอรี่ชนิด All-Solid-State ก็คือ John Goodenough ศาสตราจารย์ผู้นำทีมวิศวกรจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสวัย 94 ปี ซึ่งเขาเคยเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดแบตเตอรี่ Lithium-ion จนได้รับความนิยมทั่วโลก
ผู้เชี่ยวชาญด้านแบตเตอรี่ระบุว่า แบตเตอรี่ชนิดแข็ง All-Solid-State จะช่วยร่นระยะเวลาในการชาร์จประจุให้เต็มจาก 2-3 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ไม่ถึง 1 ชั่วโมง เมื่อใช้ไฟฟ้าจากครัวเรือน นอกจากนี้แบตเตอรี่ชนิดใหม่จะให้พลังงานที่สูงกว่าแบตเตอรี่ Lithium-ion ถึง 3 เท่าตัว นั่นก็หมายความว่า รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ติดตั้งแบตเตอรี่ชนิดใหม่นี้จะมีระยะทางวิ่งสูงสุดที่ไกลขึ้น
(Toyota เคยจำหน่าย RAV4 EV รุ่่นล่าสุดในปี 2012-2014)
ถึงแม้ว่า Toyota Motor ยังไม่ประกาศว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ชนิดแข็ง All-Solid-State สู่สาธารณะชน แต่โฆษกจาก Toyota กลับยืนยันกับแหล่งข่าวว่า ขณะนี้พวกเขากำลังดำเนินงานด้านวิจัยและพัฒนา รวมถึงพัฒนางานวิศวกรรมแบตเตอรี่ชนิดแข็ง All-Solid-State ให้สามารถผลิตและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในช่วงต้นยุค 2020
รถยนต์ไฟฟ้า Dedicated EV คันแรกจากบริษัทร่วมทุนพิเศษจะเร่งเปิดตัวให้ทันภายในปี 2020 การแนะนำตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ในครั้งแรกจะยังคงติดตั้งแบตเตอรี่ Lithium-ion ที่มีรองรับระยะทางขับขี่สูงสุด 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จประจุไฟฟ้าให้เต็มเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้น Toyota จะแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าที่ติดตั้งแบตเตอรี่ชนิดแข็ง All-Solid-State ภายในปี 2022
ที่มา : Autocar
อ้างอิงข้อมูลแบตเตอรี่ชนิดแข็ง All-Solid-State : Siamphone, Techtalkthai