Audi A1 Sportback
ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU)
- A1 Sportback 35 TFSI S-Line 1,888,000 บาท
โดย Meister Technik ผู้แทนจำหน่ายรายใหม่ รับประกัน Warranty 5 ปี หรือ 150,000 km. พร้อม 24hr Road-side Assistant บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี รายละเอียดของ Meister Technik อ่านได้ที่ >> http://www.headlightmag.com/audi-thailand-meister-technik-official-launch/
Dimension มิติตัวถัง
Audi A1
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,029 x 1,740 x 1,433 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,563 มิลลิเมตร
- ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 335 – 1,090 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
คู่แข่งของ Audi A1 Sportback โดยตรงคือ MINI Hatch 5
Engine เครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 74.5 x 85.9 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 3,500 รอบ/นาที จับคู่กับ เกียร์ อัตโนมัติ S Tronic 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
Exterior ภายนอก
- ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ Start / Stop System
- พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า
- ระบบเบรก คู่หน้า ดิสก์เบรก / คู่หลัง ดิสก์เบรก
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว 7.5J x 18″
- ยาง ขนาด 215/40 R18 พร้อมยางอะไหล่
- ไฟหน้าแบบ LED
- ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
- กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า
- กระจกมองข้าง พร้อมระบบไล่ฝ้า
- ชุดตกแต่งภายนอก แบบ S-Line
- ชุดตกแต่งภายนอก แบบ Contrast ด้วยสี Mythos Black Metallic
Interior ภายในห้องโดยสาร
- ระบบเลือกโหมดการขับขี่ Audi Drive Select
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง
- เบาะนั่งคู่หน้า แบบ Sports
- เบาะนั่งด้านหลังพับได้
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
- พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light สีขาว
- ระบบกุญแจ Comfort Key Access
- ชุดมาตรวัด Virtual Cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว
Entertainment ระบบความบันเทิง
- หน้าจอกลาง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8.8 นิ้ว
- ระบบเครื่องเสียง MMI Radio Plus รองรับ MP3
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ระบบ Audi Smartphone Interface
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก EBA
- ระบบควบคุมการทรงตัว ESC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 6 สี
- สีขาว Glacier White Metallic
- สีดำ Mythos Black Metallic
- สีฟ้า Turbo Blue Solid
- สีเขียว Tioman Green Solid
- สีเหลือง Python Yellow Metallic
- สีแดง Misano Red Pearl Metallic
ผลทดสอบ อัตราเร่ง Audi A1 Sportback 35 TFSI S-Line : 1,888,000 บาท
Auto Mode
- อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 8.51 วินาที
- อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 6.62 วินาที
Dynamic Mode
- อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 8.77 วินาที
- อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 5.96 วินาที
Top Speed
- ความเร็วสูงสุด 222 km/h @ 4,800 rpm (6th gear)
Audi A1 Sportback 35 TFSI S-Line : 1,888,000 บาท
Short Review
รถเล็กที่ขับมั่นใจในความเร็วสูง ดีกว่าที่คิด !
รถเล็กบ้าอะไร วิ่งที่ความเร็วที่ 200 km/h แต่นิ่งเหมือนขับแค่ 120 km/h …ใช่ครับ ที่ความเร็วสูงมันนิ่งดีจริงๆ จนคิดว่าขับรถซีดานคันใหญ่ๆ ตัวรถเก็บอาการได้ดีมาก ไม่รู้สึกว่าน่ากลัวเลย ช่วงล่างไม่ได้แข็งจนดีดเด้งเมื่อเจอถนนไม่เรียบ แต่ก็ไม่ได้นุ่มจนย้วย นี่คือการเซ็ตช่วงล่างที่ค่อนข้างลงตัวมากสำหรับรถเล็ก ขับแล้วไม่เครียด ไม่นุ่มไม่แข็งจนเกินไป
Audi A1 Sportback เหมือนจะเป็นทางเลือกของคนที่อยากได้รถเล็ก ขับมั่นใจ แต่ไม่ชอบงานดีไซน์ความหวานแบบมินิ รักในเส้นสายที่เฉียบคม และ ดูแข็งแกร่ง ผมเชื่อว่าผู้ชายหลายคนอยากได้รถเล็ก ขับสนุก แต่ไม่กล้าซื้อ MINI เพราะมันดูหวานไปหน่อย (ไม่นับตัว GP ที่ออกแบบมาให้ดุดันเป็นพิเศษ) A1 Sportback เลยมาตอบโจทย์ตรงนี้แทน ในราคาน่ารัก 1,888,000 บาท
A1 Sportback แต่เดิมที เปิดราคามาที่ 2,149,000 บาท ดูเหมือนว่าจะแพงไปหน่อย เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ที่ได้มา จนมีการปรับเหลือ 1,999,000 บาท ในเวลาอันรวดเร็ว เลยทำให้ดูคุ้มค่าขึ้นมาทันที มาตรวัดแบบ Digital, เครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay / Android Auto, มีกล้องมองหลังมาให้
ไฟหน้า Projector LED, ไฟท้าย LED ภายนอกตกแต่งแบบ S-Line พร้อมล้อ 18 นิ้ว ลายสวยใช้ได้ มีสีตัวถังแบบเจ็บๆมาให้เลือก ตามสไตล์รถเล็ก เบาะนั่งคู่หน้า ยังปรับด้วยมือ ไม่ใช่ไฟฟ้า…อ๋อ ไม่ใช่เพราะ Audi Thailand งก Option นะครับ แต่เป็น Global Model ที่ไม่มีการใส่เบาะไฟฟ้ามาให้ตั้งแต่แรก อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ว่า A1 Sportback ทุกคันในโลก จากโรงงานจะไม่มีเบาะนั่งปรับด้วยไฟฟ้ามาให้
ช่วงล่างประเสริฐเลิศเลอ แต่ปัญหาอยู่ที่เครื่องยนต์ และ เกียร์ ! ตัวเลขออกมาดูดีใช้ได้เลยนะครับ เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ 150 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 km/h ที่ 8.51 วินาที ช้ากว่า MINI Cooper S 2.0 เทอร์โบ 192 แรงม้า ไม่ถึงวินาที แต่ MINI นั้น ถ้าเป็น Cooper S จะเริ่มต้นที่ 2.7 ล้านบาท (ถ้าราคาเท่าๆกับ A1 Sportback ต้องเทียบกับ Hatch 5 Cooper ราคา 2.2 ล้าน แต่พอดีผมไม่เคยได้ลอง Cooper ธรรมดา เลยเทียบยากหน่อย) อัตราเร่งแซง 80-120 km/h ก็ทำได้ทันใจ 5.96 วินาที
แต่…ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เครื่องยนต์ มันอยู่ที่เกียร์ A1 Sportback ใช้เกียร์ Dual Clutch S-Tronic 7 จังหวะ ที่ทำงานไม่ค่อยทันใจเท่าไหร่ ผมค่อนข้างแปลกใจว่าปกติแล้ว Dual Clutch จะขึ้นชื่อในเรื่องการทำงานที่ไว เปลี่ยน ฉับฉับ แต่ที่อยู่ใน A1 Sportback ผมว่ามันทำงานช้าไปหน่อย ไม่ค่อยทันใจ เทียบกับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ 150 แรงม้าแล้ว ถ้าได้เกียร์ที่ทำงานไวกว่านี้ ทุกอย่างจะสนุก ลงตัว แอบเสียดายจริงๆ มันมีจังหวะคิดประมาณหนึ่งอึดใจ ก่อนที่จะพุ่งทยานออกไป ทำให้การมุด หรือ เร่งแซง ยังทำได้ไม่สนุกเท่า MINI
Character ของ MINI เป็นรถที่ขับสนุก มุดมันส์ ช่วงล่างมีดิ้นๆนิดหน่อยให้พอเร้าใจ การตอบสนองทันใจ แต่กลับกัน Audi A1 Sportback นิ่งกว่า เกาะหนึบ ให้ความมั่นใจมากกว่า แต่ไม่ทันใจทันเท้าเท่า MINI
ใครที่อยากได้รถที่ออกอาการให้เร้าใจหน่อย อาจต้องไปหา MINI แต่ถ้าใครที่อยากได้รถเล็ก กะทัดรัด แต่การขับขี่มั่นใจ นิ่ง แน่น Audi A1 Sportback ตอบโจทย์แน่นอน เรียกว่าเป็นรถเล็กที่ใช้งานประจำวันได้สบาย ในราคาไม่ถึง 2 ล้านบาท
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/76920.0