Mitsubishi Xpander (ไม่มีตัว E นำหน้า)
Mitsubishi Xpander ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็น MiniMPV เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่มีงานออกแบบผสมผสานทั้งความเป็น MPV และ SUV เข้าไว้ด้วยกัน ดังนั้นจะเห็นว่า Xpander นั้นจะดูบึกบึนมีเส้นสาย และ มัดกล้ามที่ดูแกร่งกว่าคู่แข่ง
Dimension มิติตัวรถ
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,475 x 1,750 x 1,700 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ Wheelbase : ยังไม่มีตัวเลขออกมา
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance : 205 มิลลิเมตร
เมื่อเทียบกับคู่แข่งใน Segment เดียวกัน และ ใกล้เคียง
- Mitsubishi Xpander : 4,475 x 1,750 x 1,700 มิลลิเมตร
- Honda BR-V : 4,455 x 1,735 x 1,650 มิลลิเมตร
- Honda Mobilio : 4,398 x 1,683 x 1,603 มิลลิเมตร
- Suzuki Ertiga : 4,265 x 1,695 x 1,685 มิลลิเมตร
- Toyota Sienta : 4,235 x 1,695 x 1,695 มิลลิเมตร
จะเห็นได้ว่า Xpander นั้น ดูจะใหญ่กว่าคู่แข่งรายอื่นๆ
ข้อมูลเบื้องต้นด้านเครื่องยนต์ Engine
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วาล์วแปรผัน MIVEC ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.4 x 77.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 กำลังสูงสุด 104 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า
(เมื่อเทียบกับ 4G91 ดั้งเดิม พบว่ามีการเปลี่ยนแปลง ขับความจุเพิ่มอีก 3 ซีซี. จากเดิม 1,496 ซีซี. เป็น 1,499 ซีซี. อัตราส่วนกำลังอัดจาก 9.5 : 1 เป็น 10.5 :1 พละกำลังลดลงจาก 115 แรงม้า เหลือ 104 แรงม้า แต่แรงบิดเพิ่มขึ้นจาก 135 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบ/นาที เป็น 141 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที)
รายละเอียดอื่นๆของ Mitsubishi Xpander ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 10 สิงหาคม ที่อินโดนีเซีย
Exterior ภายนอก
- ตำแหน่งบนสุดคือไฟ LED Daytime Running Light และ ไฟหรี่
- ตำแหน่งตรงกลาง คือ ไฟหน้าปกติ แบบฮาโลเจน อยู่เหนือไฟเลี้ยว
- ตำแหน่งล่างสุด คือ ไฟตัดหมอก
- ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว
- มือเปิดประตูภายนอกโครเมี่ยม
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- ไฟหรี่ไฟท้ายแบบ LED Tube
- ไฟเบรกดวงที่ 3
Interior ภายในห้องโดยสาร
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ Keyless Operation System (KOS)
- เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง
- เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับ 60 : 40 (ตรงกลางพับเป็นที่วางแขนได้)
- เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับ 50 : 50
- หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ภายในห้องโดยสาร มี 2 สีให้เลือกคือ สีเบจ และ สีดำ
- ถาดสำหรับเก็บ-วางรองเท้า ใต้เบาะนั่งด้านหน้า
- ช่องเก็บของใต้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบ สี 3 มิติ
ระบบช่วงล่าง Suspension
- ด้านหน้า : Mcpherson Strut
- ด้านหลัง : Torsion Beam
ส่วนประเทศไทยจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2017 นี้ ที่งาน Motor Expo โดยอาจจะมีให้เลือก 2-3 รุ่นย่อย อาจต้องรอข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่อินโดนีเซีย 10 สิงหาคมนี้ ส่วนราคาคาดว่าคงอยู่ในช่วงเดียวกับ Honda BR-V คือ 7 แสน – 8 แสนกว่าบาท
ที่มา : pictaram.org, mobil123.com, indianautosblog.com