สำหรับประเทศไทยแล้ว MG 3 นับได้ว่าทำตลาดมาได้ระยะหนึ่ง เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน มีนาคม 2015 แต่สำหรับในบ้านเกิดอย่างประเทศจีน MG3 ถูกเผยโฉมครั้งแรกในงาน Auto China (ปักกิ่ง) ซึ่งจัดเมื่อเดือน เมษายน ปี 2010 และ เริ่มวางจำหน่ายกันตั้งแต่ปี 2011 ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการกระตุ้นตลาด เพิ่มความสดใหม่กันเสียบ้าง


เว็บไซต์ autohome.com.cn ได้เผยแพร่ภาพของ MG 3 Minorchange อย่างละเอียดทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร ก่อนที่จะเปิดตัวในงาน Chengdu Auto Show 2017 ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
เป็นที่ยืนยันได้ว่า MG 3 Minorchange ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปรับปรุงหน้าตาเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แต่มีการเปลี่ยนภายนอก และ ภายในห้องโดยสารใหม่ จนพลิกไปจากเดิมมาก นอกจากนี้ระบบส่งกำลัง ก็ได้มีการปรับปรุงตามเสียงเรียกร้องของลูกค้าอีกด้วย


สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือการปรับรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมแบบรังผึ้ง ล้อมกรอบด้วยโครเมี่ยม กระจังหน้านี้จะเป็น Design Language ของแบรนด์ MG รุ่นใหม่ๆ ช่องดักลม มีเหลี่ยมสันมากขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น และไฟหน้าใหม่ พร้อม LED Daytime Running Lights
ในส่วนของด้านท้าย ดีไซน์อาจคล้ายกับ MG 3 เดิมพอสมควร แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า ทุกชิ้นส่วนถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ไฟท้ายใหม่ ฝาท้ายที่มีการย้ายตำแหน่งที่เปิดไปให้แนบเนียนกว่าเดิม และ เปลือกกันชนท้ายทรงใหม่ แม้แต่กระจกหลังก็ถูกเปลี่ยนเช่นกัน
เมื่อรวมกับล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ พร้อมยาง 195/55 R16 ทั้งหมดทำให้ดีไซน์ภายนอกของ MG3 Minorchange มีความดุดันโฉบเฉี่ยว และ ทันสมัยขึ้น จากเดิมเป็นอย่างมาก




เมื่อมาดูในส่วนของภายในห้องโดยสาร จะพบว่า แทบไม่มีสิ่งใดที่หลงเหลือจาก MG 3 รุ่นปัจจุบันเลย เกือบทุกชิ้นส่วนแดชบอร์ดถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด
พวงมาลัยถูกเปลี่ยนเป็นทรงสปอร์ตท้ายตัดที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ช่องแอร์กลางเป็นไปใช้แบบแนวตั้ง มีการนำลายคาร์บอนไฟเบอร์ มาตกแต่งตามขอบต่างๆ ร่วมกับลายกราฟฟิก Plaid สีเทาโดดเด่น และ SAIC ยังตั้งใจพัฒนาวัสดุภายในให้มีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย แทรกกลางด้วย หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth และ มีช่องเสียบ USB มาให้ มาพร้อมระบบ inkaNet ที่เชื่อมต่อรถ MG เข้ากับ Application บน Smartphone
แต่ส่วนที่สำคัญที่สุด จะเห็นได้ว่าคันเกียร์นั้น เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่อยู่ลึกไปกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
ในด้านของระบบขับเคลื่อน เครื่องยนต์ได้ถูกปรับปรุงจากเดิม ให้มีพละกำลังมากขึ้น แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ระบบเกียร์เดิมซึ่งเป็นแบบ Automated Manual Transmission (AMT : Selematic) ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็น เกียร์อัตโนมัติ แบบปกติ 4 จังหวะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว !

เครื่องยนต์ ของ MG3 Minorchange เวอร์ชั่นจีน มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ
เบนซิน 1.3 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Multipoint EFi ขนาด 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
เบนซิน 1.5 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Multipoint EFi ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

รายละเอียดอุปกรณ์ ” เบื้องต้น ” สำหรับ MG 3 Minorchange เวอร์ชั่นจีน มีดังนี้
Exterior ภายนอก
- ไฟหน้า Projector Lens แบบฮาโลเจน
- สวิตซ์ปรับระดับไฟหน้า สูง – ต่ำ
- ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- ระบบเบรก คู่หน้า ดิสก์เบรก / คู่หลัง ดรัมเบรก
- ล้ออัลลอย ขนาด 14 – 16 นิ้ว (แล้วแต่รุ่น)
- ยาง ขนาด 185/70 R14 – 195/55 R16 (แล้วแต่รุ่น)
- กระจกมองข้าง พร้อมระบบไล่ฝ้า
- หลังคา Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
Interior ภายในห้องโดยสาร
- ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
- วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร ลายกราฟฟิก Plaid และ ลายคาร์บอนไฟเบอร์
- เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า / หุ้มด้วยหนัง
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง ทรงสปอร์ตท้ายตัด
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ระบบปรับอากาศแบบธรรมดา
- หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว
- ระบบนำทาง Navigation System
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ระบบ inkaNET
- ลำโพง 6 – 7 ตำแหน่ง



อุปกรณ์อำนวยความสะดวก – ระบบความปลอดภัย Convenients & Safety
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก EBA
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล TCS
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติลมยาง TPMS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด



MG3 Minorchange เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ในงาน Chengdu Auto Show 2017 ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน นี้
สำหรับประเทศไทยคาดว่าน่าจะเปิดตัว ปลายปี 2017 – ต้นปี 2018
ที่มา : autohome.com.cn