ปัญหาสำคัญของ Honda อินเดียคือ ขาดแคลน SUV ขนาดพอเหมาะที่จะทำตลาด
เข้าขั้นรุนแรง ทั้งที่ Honda มีศักยภาพในการพัฒนารถที่ยืดหยุ่นกว่าใคร ถึงแม้ว่ามี
Honda BR-V จำหน่าย แต่ก็ไม่ได้ขายดีเท่าที่ควรจะเป็น ครั้นจะนำ Honda HR-V
มาประกอบขาย ก็คงรู้ชะตากรรมได้เลยเพราะต้นทุนการผลิตของ HR-V มันสูงเกินกว่า
ที่จะไปแข่งขันกับใคร ดังนั้น ทางออกที่สวยงามที่สุดคือการนำรถยนต์รุ่นพื้นฐานที่ขายดี
มาพัฒนากลายเป็น SUV – Crossover คันใหม่
บริษัท Honda Cars India ได้เปิดตัว Honda WR-V เวอร์ชันอินเดียเรียบร้อย ในวันที่
16 มีนาคม 2017 เป็นการเปิดศักราชแนวรบ SUV-Crossover ในท้องตลาดอินเดีย
ชูจุดเด่นด้าน ราคาจำหน่ายที่มีราคาเริ่มต้นถูกกว่า Honda City และ ถูกกว่า BR-V
ในระดับหนึ่ง เหตุผลที่ทำให้ Honda WR-V ถูกขนาดนั้น ก็เพราะ Honda ติดตั้ง
เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรในรุ่นเริ่มต้น ประกอบกับขนาดตัวถังมีความยาวไม่เกิน
4 เมตรจึงได้รับสิทธิ์เสียภาษีพิเศษสำหรับรถขนาดเล็ก
Honda WR-V เวอร์ชันอินเดีย จะเหมือนกับเวอร์ชันบราซิลทุกประการ ด้านหน้า Honda
WR-V ถูกออกแบบด้วยแนวคิด ‘Solid Wing Face’ มีแนวกระจังหน้าคล้ายกับ Honda
City ผสมกับ BR-V แต่มีมิติขึ้นคล้าย CR-V ใหม่, ไฟหน้าทรงใหม่ค่อนข้างดุดันสอดกับ
ปีกของกระจังหน้า, มีไฟ Daytime Running Light อยู่ที่มุมของไฟหน้าซ้าย-ขวา รูปทรง
คล้ายกับที่อยู่ใน BR-V, กันชนหน้ามีการออกแบบช่องดักลมหน้าที่ดูเสมือนเป็นกระจังหน้าในตัว
Honda WR-V มีความยาวตัวถัง 3,990 มิลลิเมตร กว้าง 1,734 มิลลิเมตร สูง 1,601
มิลลิเมตร มีความยาวฐานล้อ 2,555 มิลลิเมตร มีขนาดใหญ่กว่า Honda Jazz ทั้งยาวกว่า
44 มิลลิเมตร กว้างกว่า 40 มิลลิเมตร และสูงกว่า 57 มิลลิเมตร
ภายในห้องโดยสารยกมาจาก Honda Jazz ทุกอย่างอาจจะต่างกันแค่รุ่นย่อย VX ที่
ติดตั้งหน้าจอสัมผัส DIGIPAD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมกันนี้ยังเพิ่มออพชั่นความสะดวกจน
น่าอิจฉา อาทิ Cruise Control และหลังคาซันรูฟ น่าแปลกที่เป็นรถพื้นฐานเดียวกับ
Jazz แต่กลับมีเนื้อที่ห้องสัมภาระใหญ่กว่า Jazz ถึง 9 ลิตร หรือมีพื้นที่ 363 ลิตร
ระบบความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ Honda WR-V ทุกรุ่นจะติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า
และระบบเบรก ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมกันนี้ยังติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าที่รองรับ
กระดูกต้นคอหากมีอุบัติเหตุชนจากด้านท้าย, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, ระบบตัด
การทำงานของคันเร่ง เมื่อแป้นเบรกและแป้นคันเร่งถูกเหยียบในเวลาเดียวกัน (Brake
Override System), กล้องส่องหลังมุมมอง 3 แบบ, กระจกผู้ขับขี่ Jam Protection เป็นต้น
เครื่องยนต์มี 2 แบบให้เลือก ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินรหัส L12B 1.2 ลิตร บล็อก 4 สูบ
SOHC 16 วาล์ว 1,199 ซีซี. พร้อมวาล์วแปรผัน i-VTEC ให้กำลัง 90 แรงม้า (PS) ที่
6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 110 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์ธรรมดา
5 จังหวะ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีที่สุดจากการทดสอบตามมาตรฐานรัฐบาลอินเดีย
ถึง 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-DTEC 1,498 ซีซี. 100 แรงม้า
(PS) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 200 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์ธรรมดา
6 จังหวะ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีที่สุดจากการทดสอบตามมาตรฐานรัฐบาลอินเดียถึง
25.5 กิโลเมตรต่อลิตร
ราคาจำหน่ายจะบวกจาก Honda Jazz ระดับหนึ่ง โดยวางราคาต่ำกว่า Honda City ซีดาน
ยอดนิยมของที่นั่นอีกด้วย
ที่มา : Honda/Indianautosblog