เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดรถยนต์ กลุ่ม SUV-Crossover ในยุโรป ที่โตขึ้นถึง 21% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากที่สหรัฐอเมริกาเปิดตัวนำร่อง EcoSport Minorchange ไปก่อนเป็นที่แรก เมื่อ เดือนพฤศจิกายน 2016
ล่าสุด Ford Europe จึงได้เปิดตัว EcoSport Minorchange ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 EcoBlue และระบบส่งกำลังใหม่ มีการปรับดีไซน์ภายนอก-ภายใน คล้ายกับเวอร์ชั่นอเมริกาที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
ความน่าสนใจของ Ford EcoSport Minorchange เวอร์ชั่นยุโรป อยู่ที่เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue ใหม่ ขนาดความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 125 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 22.22 กิโลเมตร/ลิตร (4.5 ลิตร/100 กิโลเมตร : ตามมาตรฐาน Europe) และปล่อย CO2 ที่ 119 กรัม/กิโลเมตร
นอกเหนือจากเครื่องยนต์ดีเซลใหม่แล้ว ในส่วนของเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 EcoBoost ก็มีการปรับปรุงระบบส่งกำลัง (เกียร์) ลูกใหม่เช่นเดียวกัน
เบนซิน 1.0L EcoBoost Turbo
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ แถวเรียง EcoBoost ขนาด 1.0 ลิตร 999 ซีซี. Ti-VCT พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 71.9 x 82.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 125 แรงม้า และ 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตร และ 180 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 5,000 รอบ/นาที ที่ผ่านมาจับคู่ กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ คราวนี้เปลี่ยนเป็น เกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ 6 จังหวะ และ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
กลางปี 2018 ก็จะมีรุ่นพละกำลังเริ่มต้น 1.0 EcoBosst 100 แรงม้า ตามมาสมทบ
ดีเซล 1.5L EcoBlue Diesel Turbo
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง EcoBlue ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 125 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า
กลางปี 2018 ก็จะมีรุ่นพละกำลังเริ่มต้น 1.5 EcoBlue 100 แรงม้า ตามมาสมทบเช่นเดียวกับเครื่องยนต์เบนซิน
ความเปลี่ยนแปลงภายในห้องโดยสาร มีการปรับดีไซน์ใหม่ รวมถึงมีการใช้วัสดุบุนุ่ม และ หันมาใช้หน้าจอแบบสัมผัสแทนการกดปุ่ม เบาะนั่งถูกออกแบบใหม่ รวมถึงไฟ Ambient Light ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 7 สี
รายละเอียดเบื้องต้นของ Ford EcoSport Minorchange เวอร์ชั่นยุโรป
- กระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยม Theme Design คล้ายๆ Ford Escape/Edge
- ไฟหน้า Projector Lens พร้อม ไฟ LED Daytime Running Light
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Ford’s Intelligent AWD
- ภายในห้องโดยสาร ยกงานดีไซน์แผงแดชบอร์ดใหม่
- หน้าจอเครื่องเสียง ขนาด 8 นิ้ว รองรับ SYNC 3
- รองรับ Apple Carplay และ Android Auto
- ระบบการเล่นเสียง B&O Play ที่ปรับแต่งโดย วิศวกร HARMAN ลำโพง 10 จุด, ซัฟวูฟเฟอร์สำหรับด้านหลัง รวมกำลังขับ 675 วัตต์
และ เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าชาวยุโรป Ford จึงมีได้การปรับแต่งชิ้นส่วนช่วงล่าง และ ระบบบังคับเลี้ยวใหม่ ให้มีการตอบสนองที่ดีขึ้น ดังนี้ ไม่ว่าจะเป็น สปริง, ช็อคอัพ, เฟืองแกนพวงมาลัย, รวมถึงอัตราทดพวงมาลัยไฟฟ้า
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มรุ่นตกแต่งพิเศษ ST-Line ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่ง เพิ่มเติมดังนี้
- กันชนหน้า-หลัง
- สเกิร์ตข้าง
- ราวหลังคาสีดำ
- ไฟหน้ารมดำ
- ล้ออัลลอย “Dark Tarnish” ขนาด 17 นิ้ว
- หลังคาและขอบประตูสีดำ
- พวงมาลัยแบบท้ายตัด
- เบาะหนังเดินด้ายสีแดง
- สคัพเพลท ST-Line
- แป้นคันเร่งและแป้นแบรก วัสดุอลูมิเนียม
ลูกค้าสามารถเลือกสีหลังคา ได้ถึง 3 สี
- สีน้ำเงิน Lightning Blue
- สีแดง Ruby Red
- สีส้ม Tiger Eye
สำหรับ Ford EcoSport ใหม่ ในยุโรป จะไม่มีการนำเข้าจากอินเดียอีกต่อไป เพราะจะผลิตจากโรงงานแห่งใหม่ Craiova Assembly Plant ในโรมาเนีย ที่ใช้เงินลงทุนไปกว่า 200 ล้านยูโร หรือราว 7.82 พันล้านบาท สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วแทน โดยจะผลิต Ford EcoSport Minorchange ป้อนสู่ตลาดยุโรป
ที่มา : Ford Europe