แม้หลายคนจะทราบดีว่ารถยนต์ยี่ห้อ BMW นั้นมีการประกอบจำหน่ายภายในประเทศเรา
เป็นเวลาหลายทศวรรษ แต่เป็นการประกอบรถในลักษณะจ้างเพื่อทำการประกอบรถยนต์
โดยรุ่นที่เราคุ้นตากันมากที่สุดจะเป็น BMW ซีรีส์ 3 ตัวถัง E30, E36 รวมไปถึงซีรีส์ 5
ตัวถัง E34 และ E39 จนในที่สุดเมื่อบริษัทแม่มีการขยายบทบาทเข้ามาควบคุมการขาย
การตลาด และการประกอบรถด้วยตัวเอง จึงได้มีการก่อตั้งบริษัท BMW Group Manufacturing
ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง โดยรถรุ่นแรกที่เริ่มประกอบคือซีรีส์ 3 ตัวถัง E46
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2543 โดยตั้งอยู่
ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 115 กม. มีพื้นที่ทั้งหมด 75,000 ตารางเมตร สร้างขึ้นด้วย
งบประมาณลงทุนกว่า 2,600 ล้านบาท และมีบทบาทเป็นโรงงาน BMW ชั้นนำในภูมิภาค
ที่มีความสามารถในการประกอบรถหลากหลาย
รถยนต์ของ BMW ที่ประกอบโดยโรงงานที่จังหวัดระยอง ได้แก่
BMW ซีรีส์ 1 (ในภาพ เป็น 118i ตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปหยกๆ)
BMW ซีรีส์ 3 – อันประกอบด้วยรุ่นซาลูน 320i, 320d, 325d และ 328i รวมไปถึง ซีรีส์ 3 Gran Turismo
ตามภาพข้างบนนี้
BMW ซีรีส์ 5 – ได้แก่ 520i, 520d, 525d และ 528i
BMW ซีรีส์ 7
BMW ตระกูล X – ไม่ว่าจะเป็น X1, X3 หรือแม้กระทั่ง X5
MINI Countryman ก็ถูกประกอบขึ้นที่โรงงานนี้ด้วยเช่นกัน (เริ่มประกอบปี2013) ดังนั้น
ถ้าหากนับรถหลากหลายรุ่นตามที่ได้กล่าวไป รวมกับ MINI และ BMW Motorrad
ด้วยแล้ว จะทำให้โรงงาน BMW Group Manufacturing จังหวัดระยองนั้น
เป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวในโลกของ BMW Group ที่สามารถผลิตยานพาหนะได้
ครบทั้ง 3 แบรนด์ภายในโรงงานเดียว
ปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้มีพนักงานประจำอยู่ประมาณ 550 คน และนับตั้งแต่เปิดโรงงานมา
ก็ได้ทำการประกอบรถไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 56,000 คัน ส่วน BMW Motorrad ที่เริ่มประกอบ
ในปีที่แล้วนั้น ปัจจุบันก็ประกอบไปแล้วมากกว่า 2,000 คัน โดยลักษณะการประกอบ
จะเป็นไลน์ประกอบแบบยืดหยุ่นที่ไม่มีไลน์ไหนผลิตรถรุ่นเดียวแบบตายตัว (ซึ่งเป็นวิธีการ
แบบที่โรงงานผลิตรถยนต์ประเภทขายจำนวนมากนิยมใช้กัน) ในทางตรงกันข้ามวิธีการ
จัดวางเครื่องมือตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้นั้น เอื้ออำนวยให้สามารถผลิตรถรุ่นนั้นและ
รุ่นนี้แบบสลับกันในระหว่างไลน์ได้ โดยการจัดลำดับความสำคัญในการประกอบจะขึ้นอยู่
กับว่าลูกค้ามีการสั่งรถรุ่นใดเข้ามาในปริมาณมาก หรือวัดตามความเร่งด่วนตามความต้องการ
ของตลาด
ลักษณะการผลิตของโรงงาน BMW จะเป็นแบบ CKD โดยมีการใช้ทั้งชิ้นส่วน
ที่นำเข้าจากต่างประเทศ และชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น
ส่วนตัวถังของรถที่ทำสีแล้วนั้น จะถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยรถซาลูน
และแฮทช์แบ็ค จะนำเข้ามาจากเยอรมันนี หรือส่วนอื่นของยุโรป ในขณะที่รถตระกูล X
จะนำเข้ามาจากโรงงานในอเมริกา ส่วนเครื่องยนต์นั้นก็จะประกอบในต่างประเทศแล้ว
ค่อยนำเข้ามาวางตั้งแคร่ยกใส่รถในประเทศไทย
ส่วนชิ้นงานที่ทำภายในประเทศ ได้แก่ชิ้นส่วนช่วงล่าง ลูกยางต่างๆ ตลอดจนงาน
ชิ้นส่วนภายในรถเช่นคอนโซล และเบาะ ซึ่งทาง BMW ภูมิใจมากกับงานฝีมือของคนไทย
โดยกล่าวว่าคุณภาพของชิ้นงานภายในที่ผลิตในประเทศเรานั้น มีคุณภาพระดับแถวหน้า
เมื่อเทียบกับงานจากประเทศอื่นๆรวมถึงโรงงานที่เยอรมัน แถมการเย็บและงานหุ้มหนัง
บางส่วนถูกทำในไทยแล้วส่งกลับไปประกอบรถที่เมืองนอกเสียด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ ภายในโรงงานก็ยังมีศูนย์ฝึกอบรมสำหรับยานพาหนะแบรนด์ต่างๆของ BMW
ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การฝึกอบรมด้านเทคนิคสำหรับช่าง ไปจนถึงเทคนิคการขายสำหรับ
ดีลเลอร์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายต่างๆอีกด้วย
ในวาระพิเศษครบรอบ 15 ปีการประกอบรถยนต์ในประเทศไทยของโรงงานที่จังหวัดระยอง
ทางบริษัทแม่ของ BMW ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของโรงงานและตลาดรถพรีเมียมในภูมิภาคนี้
จึงได้อัดฉีดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 1,100 ล้านบาทเพื่อการขยายโรงงานและเพิ่มเติมส่วนสำหรับ
การทดสอบรถยนต์บริเวณรอบโรงงาน
นอกจากการลงทุนในรูปของเม็ดเงินแล้ว ทาง BMW Group Manufacturing ยังได้มีการ
ลงทุนด้านพัฒนาความรู้ให้กับท้องถิ่น โดยได้เริ่มต้นโครงการศึกษาระบบทวิภาคี
หรือ Dual Excellence in Education ภายใต้ความร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ
ในการฝึกอบรมในระบบทวิภาคีให้แก่นักเรียนอาชีวศึกษา ด้านเมคคาทรอนิกส์ ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่
เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และในปี 2559 ก็จะขยายความร่วมมือในการศึกษาและจัดฝึกอบรม
ด้าน Mechatronics ให้แก่นักเรียนอาชีวศึกษาระดับ ปวส. จากโรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ)
ทั้งหมดนี้เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ระดับพรีเมียมที่มี
ความพร้อมมากที่สุด
ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นการพัฒนาโรงงานและกำลังคนตามวัตถุประสงค์ของทาง BMW แล้ว
โรงงานที่จังหวัดระยองจะมีขีดความสามารถในการประกอบรถยนต์ได้ถึง 20,000 คันต่อปี
และประกอบรถมอเตอร์ไซค์ได้ 10,000 คันต่อปี