BMW สร้างความมึนงงให้แก่วงการรถยนต์ระดับหรูอีกครั้งเมื่อ BMW ได้ยกเลิกการทำตลาด BMW 5-Series GT (Gran Turismo) แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น 6-Series GT แทน เพื่อสร้างตัวตนใหม่ไม่ให้เบียดทับกับ 5-Series รุ่นปัจจุบัน งานนี้ BMW พยายามพัฒนา 6-Series GT ให้สามารถอุดจุดอ่อนของ 5-Series GT ดั้งเดิมให้ได้

BMW 6-Series GT จะถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถยนต์บั้นท้าย Fastback (เปิดฝากระโปรงท้ายได้ทั้งบานคล้ายรถแฮทช์แบค แต่มีบั้นท้ายลาดเอียงสไตล์เดียวกับรถคูเป้) เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะทางไกล ตำแหน่งเบาะนั่งที่สูงช่วยมองเห็นท้องถนนได้กว้างไกล ห้องโดยสารกว้างขวางยืดหยุ่นทุกการใช้งานแต่ไม่ละทิ้งความสปอร์ตตามแบบฉบับ BMW

BMW 6-Series GT พลิกภาพลักษณ์จาก 5-Series GT ด้วยการออกแบบสัดส่วนตัวรถให้ดูเป็นรถยนต์ Fastback ที่มีบั้นท้ายสปอร์ต ลดความสูงของตัวถังลงมา และออกแบบกรอบกระจกหน้าต่างรอบคันให้กว้างขวางกว่า 5-Series รุ่นปกติ แต่ยังคงเน้นดีไซน์ที่ดูปราดเปรียวเช่นเคย จึงทำให้ 6-Series GT กลายเป็นรถที่มีบุคลิกสปอร์ตและความหรูหราครบถ้วน

มิติตัวถัง BMW 6-Series GT
กว้าง x ยาว x สูง (มิลลิเมตร) 5,091 x 1,902 x 1,538
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) 3,070 มิลลิเมตร
ยาวกว่า และเตี้ยกว่า BMW 5-Series GT 87 มิลลิเมตรและ 21 มิลลิเมตร ตามลำดับ

BMW 6-Series GT มีการปรับปรุงสัดส่วนตัวถังให้กลายเป็นรถที่ดูสง่างามมากขึ้นด้วยแนวหลังคาบั้นท้ายลาดเอียงขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ขยายเนื้อที่เหนือศีรษะให้ปลอดโปร่งกว่า 5-Series GT ถึงแม้ว่าความสูงตัวรถจะลดลงก็ตาม ห้องโดยสารกว้างขวางด้วยความยาวฐานล้อที่ยาวสุด ๆ

ด้านหน้าแทบจะไม่แตกต่างจาก BMW 5-Series โฉมใหม่มากนัก แต่ดูเหมือนว่า 6-Series จะติดตั้งกันชนหน้าที่ดูคล้ายกับ 5-Series M Sport เพียงแต่รายละเอียดบางอย่างจะไม่เหมือนกัน ไฟหน้าเป็นแบบ LED ทั้งหมดพร้อมระบบ Adaptive LED Headlight ช่วยกระจายแสง, ปรับมุมไฟและช่วยส่องสว่างขณะเข้าโค้ง

BMW 6-Series GT ยังเป็นรถที่มีความสปอร์ตมากกว่า 5-Series GT ถึงขนาดตั้งใจพัฒนาตัวรถให้ถูกต้องตามหลังอากาศพลศาสตร์เอามาก ๆ ไ ด้แก่ ติดตั้งช่องดักลมหน้าแบบเปิด – ปิดอัตโนมัติ, ใต้พื้นรถถูกออกแบบให้ปิดผนึก, ช่องดักลมกันชนหน้าซ้าย-ขวา บังลมทิศทางลมให้ไหลเวียนไปสู่สกู๊ปดักลมหลังซุ้มล้อหน้า, สปอยเลอร์ท้ายกางออกอัตโนมัติเมื่อขับเคลื่อนด้วยความเร็วมากกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหดกลับเข้าที่เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งหมดทั้งมวลจะช่วยให้ตัวรถมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานจาก 0.29 เหลือเพียง 0.26 เท่านั้น

ภายในห้องโดยสารยกชุดมาจาก BMW 5-Series รุ่นใหม่ที่ยังเอาใจผู้ขับขี่ แต่เพิ่มระดับความหรูหราเพื่อความสะดวกสบาย มีบรรยากาศผ่อนคลายสำหรับการเดินทางไกล ขนาดห้องโดยสารกว้างขวางโปร่งโล่งทที่สามารถติดตั้งเบาะนั่งขนาดใหญ่พร้อมห้องสัมภาระที่มีขนาดเกินคาด

ขุมพลังมีให้เลือก 3 ทางเลือกเครื่องยนต์ ได้แก่

  • BMW 630i GT เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ TwinScroll พร้อมระบบ VALVETRONIC และ Double-VANOS ให้กำลัง 258 แรงม้า (HP) แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 4,400 รอบต่อนาที ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.3 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงระหว่าง 6.6 – 6.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 แค่เพียง 152-142 กรัมต่อกิโลเมตร
  • BMW 640i GT เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 340 แรงม้า (HP) แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 1,380 – 5,200 รอบต่อนาที ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 5.4 วินาที (รุ่น XDrive 5.3 วินาที) มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงระหว่าง 7.4 – 7.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (รุ่น XDrive 8.2 – 7.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) ปล่อยค่าไอเสีย CO2 แค่เพียง 169-159 กรัมต่อกิโลเมตร (รุ่น XDrive 187-177 กรัมต่อกิโลเมตร)
  • BMW 630d GT เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 265 แรงม้า (HP) แรงบิด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 2,500 รอบต่อนาที ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.1 วินาที (รุ่น XDrive 6.0 วินาที) มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงระหว่าง 5.3 – 4.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (รุ่น XDrive 5.9 – 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) ปล่อยค่าไอเสีย CO2 แค่เพียง 139-129 กรัมต่อกิโลเมตร (รุ่น XDrive 155-144 กรัมต่อกิโลเมตร)

ช่วงล่างแบบ Adaptive suspension และระบบ Dynamic Damper Control มาพร้อมกับถุงลมช่วงล่างที่ช่วยเพิ่มความสบายขณะขับขี่ แต่ยังไม่ทิ้งลายการบังคับที่เฉียบคม สามารปรับความสูงของพื้นตัวรถได้อีก 20 มิลลิเมตรเพียงแค่กดปุ่ม, เมื่อผู้ขับขี่ทะยานด้วยความเร็วเกินกว่า 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะยกพื้นตัวรถให้สูงขึ้นอัตโนมัติ และหากขับขี่ด้วยความเร็วเกินกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงล่างจะถูกปรับเป็นโหมด Sport อัตโนมัติ

จุดขายสำคัญอีกข้อหนึ่งคือ ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ Remote Control Parking เพียงแค่เจ้าของรถกดรีโมทควบคุมภายนอกรถ ระบบจะช่วยนำรถไปจอดในโรงรถแคบ ๆ ได้อัตโนมัติ

สำหรับตลาดเมืองไทยคงต้องลุ้นว่าจะมีแผนทำตลาดหรือไม่?

ที่มา : Netcarshow