Audi หนึ่งในค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากเครือ Volkswagen Group นำรถยนต์ต้นแบบ AICON Concept มาจัดแสดงที่งาน Frankfurt Motor Show 2017 ที่เยอรมัน มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติ Audi AI ที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้ติดตั้งลงใน Audi A8 ไปแล้ว
Audi เปิดเผยว่า พวกเขาต้องการสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของนวัตกรรมหลายๆอย่าง ที่จะเปลี่ยนไปสำหรับรถยนต์ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยน ระบบการควบคุมการขับขี่แบบอัตโนมัติ, นวัตกรรมของระบบกันสะเทือน ,เทคโนโลยีดิจิตอล รวมถึงระบบเซนเซอร์ต่างๆที่ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มความรับผิดชอบต่อสังคม ในขณะส่วนการออกแบบห้องโดยสารนั้น Audi ตั้งใจที่จะมอบสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ให้เหมือนกับได้นั่งโดยสารอยู่ในชั้น First class ของสายการบินชั้นนำเลยทีเดียว
มิติตัวรถของ AICON Concept ยาว 5,444 มิลลิเมตร กว้าง 2,100 มิลลิเมตร สูง 1,506 มิลลิเมตร โดยมีระยะฐานล้อที่ยาวถึง 3,470 มิลลิเมตร ซึ่งยาวกว่า Audi A8 รุ่นฐานล้อยาวถึง 240 มิลลิเมตร
เส้นสายของตัวถัง ออกแบบให้มีเหลี่ยมสันที่ความคมชัดลากยาวจนไปจรดที่ด้านท้ายของตัวรถ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 26 นิ้ว ตัวถังถูกสร้างขึ้นด้วยพื้นฐานแบบเฟรมเดี่ยว เหล็กรูปทรงหกเหลี่ยม ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่ถูกนำมาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของ Audi ทุกรุ่นนับจากนี้
รถต้นแบบไม่มีเสา B-Pillar และ ใช้ประตูแบบบานสวิง ส่วนห้องโดยสารถูกออกแบบมาตามหลักของรถยนต์แบบ 2+2 ที่นั่ง โดยที่เบาะคู่หน้า สามารถเลื่อนถอยหลังได้จนสุด เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขา และ พื้นที่ใช้สอยได้อย่างอิสระ ตัวเบาะสามารถปรับหมุนได้ 15 องศา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการสนทนาระหว่างผู้โดยสาร นอกจากนี้พรมที่พื้นรถ ก็สามารถปรับระดับขึ้นลงได้ตามสรีระเพื่อลดความเมื่อยล้าได้อีกด้วย
ไฟหน้า และ ไฟท้ายของ Audi AICON เป็นแบบ “LED lighting technology” สามารถแสดงผลเสมือนหน้าจอแบบดิจิตอล ได้หลากสีสันผ่าน Pixel ทรงสามเหลี่ยมจำนวนมาก สามารถกำหนดเป็นภาพกราฟฟิกที่เคลื่อนไหวได้ตามที่เราต้องการ ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ขับขี่เร่งความเร็วเพิ่ม หรือ ลดความเร็วลง แถบไฟหน้าก็จะแสดงผลด้วยการเคลื่อนที่ขึ้น-ลง แตกต่างกันออกไป และ ในช่วงกลางคืนหรือในกรณีที่ทัศนวิสัยไม่ดี แถบเส้นของไฟหน้าที่ลากยาวยังให้แสงที่มีความละเอียดสูง และ คมชัดทำให้เกิดทัศนวิสัยที่ดีมากขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถส่องแสงลงบนพื้นเพื่อให้ผู้ร่วมทางสังเกตเห็นตัวมันเองได้อย่างชัดเจน ช่วยเตือนผู้คนที่สัญจรไปมาบนท้องถนนและลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง
การออกแบบภายในห้องโดยสาร เน้นความสะดวกสบายในการควบคุม และ สั่งงานผ่านระบบควบคุมการขับขี่แบบอัติโนมัติ รวมถึง ระบบการสั่งการด้วยเสียง, ระบบนำทาง, ระบบความบันเทิง เจ้าของรถสามารถชมภาพยนตร์, ท่องเว็บไซต์ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือ ประชุมผ่าน VDO และ ยังสามารถขยายเชื่อมต่อให้แสดงผลบนกระจกบังลมด้านหน้าได้ด้วย หลังคาเป็นแบบกระจกทั้งบานป้องกันแสง และ รังสีจากดวงอาทิตย์ โดยเลือกปรับความสว่างภายในห้องโดยสารได้ด้วยหลอดแบบ OLED
ขุมพลังของรถยนต์ต้นแบบคันนี้ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า4 ตัว พละกำลังรวม 353 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร โดยมอเตอร์แต่ละตัว จะขับเคลื่อนอิสระแยกกันทั้ง 4 ล้อ สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 800 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
ที่มา : carscoops, motortrend