29 สิงหาคมที่ผ่านมา Bentley ได้เผยข้อมูลของ All NEW Continental GT รุ่นที่ 3 (3rd Generation) อย่างเป็นทางการ โดย Wolfgang Durheimer ประธานบริหารของ Bentley ได้กล่าวว่า Continental GT รุ่นล่าสุดนี้ เป็นการผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพ ความหรูหรา และ เทคโนโลยี ที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา
All NEW Continental GT ยังคงรักษาแนวทางการออกแบบสไตล์คลาสสิค และ ความเป็นเอกลักษณ์ที่ Bentley มีไว้อย่างชัดเจน เช่น ไฟหน้าคู่ กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่
Dimension มิติตัวรถ
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,805 x 1,954 x 1,405 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,851 มิลลิเมตร
- ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย : 358 ลิตร
- น้ำหนักตัวรถ : 2,244 กิโลกรัม
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน : cd = 0.29
- ตำแหน่งของล้อหน้าถูกยืดออกไปอีก 135 มิลลิเมตร
- ลดความสูงของกระจังหน้าลง เพื่อทำให้ฝากระโปรงหน้ารถลาดลง
โครงสร้างตัวถังใหม่ทั้งหมด ทำจาก เหล็ก และ อลูมิเนียม (Steel & Aluminium Monocoque) ทำให้มีน้ำหนักตัวลดลงจากรุ่นเดิม 80 กิโลกรัม วัสดุผิวตัวถังเป็นอลูมิเนียม ที่ขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยี Super Formed ใช้ความร้อนสูงถึง 500 องศาเซลเซียส ด้วยเทคโนโลยีนี้ ทำให้สร้างความโค้งมน และ ความคมของลายเส้นตัวถังได้เท่าที่ต้องการ
โดย All NEW Continental GT เป็นรถยนต์คันแรกของโลก ที่ใช้เทคโนโลยี Super Formed ในการขึ้นรูปวัสดุ
สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ไฟหน้า แบบ Full LED Matrix ที่ได้แรงบันดาลในการออกแบบ จากคริสตัลที่มีความใส เมื่อมองทะลุไปแล้ว จะเห็นเป็นแสงสะท้อนเหมือนกับมีเพชรฝังอยู่ภายใน มาพร้อมกับ ไฟ Daytime Running Light และ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist เป็นมาตรฐาน ไฟท้ายวงรีรูปไข่ รายละเอียดภายในโคมดูมีมิติ
นอกจากนี้ ล้อของ Continental GT เริ่มต้นที่ ขนาด 21 นิ้ว ในรุ่นมาตรฐาน พร้อมยาง Pirelli 265/40 ZR21 (105Y) ในด้านหน้า และ 305/35 ZR21 (109Y) ในด้านหลัง และ ขนาด 22 นิ้ว แบบ Lightweight ในรุ่นสปอร์ต ที่มาพร้อมกับยางขนาด 275/35 ZR22 (104Y) ด้านหน้า และ ด้านหลังกับขนาด 315/30 ZR22 (107Y)
ภายในห้องโดยสารของ Continental GT ได้รับการออกแบบโดย Romulus Rost ซึ่งเป็นผู้ออกแบบภายในของ Audi TT รุ่นแรก ภายในห้องโดยสารของ Continental GT ใช้วัสดุจากธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง และ เป็นของแท้ทั้งหมด เช่น เยื่อไม้แบบพิเศษทำจากไม้หายาก Koa โดยใช้ปริมาณถึง 10 ตารางเมตรต่อรถ 1 คัน และ ใช้เวลาในการผลิตด้วยมือถึง 9 ชั่วโมง
Romulus Rost ยังกล่าวอีกว่า เขาพยายามที่จะใช้สวิตช์ควบคุมต่างๆ ภายในห้องโดยสาร เป็นลักษณะแบบปุ่มหมุน หรือ ปุ่มกด แทนที่การใช้แบบสัมผัส เพื่อให้ผู้ใช้รถ รู้สึกสัมผัสกับการใช้รถได้ง่าย และแม่นยำในการใช้งาน
แดชบอร์ดตกแต่งด้วยนาฬิกาแบบอนาล็อกจาก Swiss ที่เรียกว่า Cotes de Geneve เป็นรุ่นแรกของโลก ที่ผลิตด้วยอลูมิเนียมความหนา 0.6 มิลลิเมตร เบาะนั่ง ปักโลโก้ Bentley ที่หมอนรองศีรษะ เบาะปรับด้วยไฟฟ้า 20 ทิศทาง สามารถปรับอุณหภูมิให้ร้อนหรือเย็นได้ (Heated & Ventilated Seat) และ สามารถปรับโปรแกรมนวดได้ด้วย (Massage Seat) ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยผ้า และ หนังแท้ คุณภาพสูง ปักลายแบบพิเศษเพื่อความหรูหรา ใช้เวลาในการผลิต 18 เดือน และ ใช้ผ้าและหนัง ทั้งหมดถึง 712 ชิ้น
เครื่องเสียง สามารถเลือกปรับเสียงได้ 8 โหมด ประกอบด้วย ลำโพง Bang & Olufsen จำนวน 18 ตัว กำลังขับ 2,200 วัตต์ สำหรับเครื่องเสียง Bang & Olufsen รุ่นใหม่นี้ สามารถเชื่อมต่อกับระบบคุมควบคุมภายในรถที่เรียกว่า BeoSonic ได้ด้วย มีระบบ Active Bass Transducers ติดตั้งอยู่ที่เบาะด้านหน้า เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก
หน้าจอแบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple Car Play / Andriod Auto หน้าจอสามารถหมุนได้แบบ 360 องศา เช่น หมุนเปลี่ยนให้เป็นพื้นผิวเรียบแบบเดียววัสดุตกแต่งทั้งหมด โดยซ่อนหน้าจอไว้ด้านใน หรือ จะหมุนเปลี่ยนเป็นอีกด้านที่มีมาตรวัดแบบอนาล็อก 3 ตัว สไตล์รถสปอร์ต และ เมื่อกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ หน้าจอแบบสัมผัส จะหมุนออกมาให้ใช้งาน
สำหรับขุมพลังของ All New Bentley Continental GT คันนี้ จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน Direct Injection W12 สูบ TSI ขนาด 6.0 ลิตร 5,950 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 89.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 กำลังสูงสุด 635 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 8 จังหวะ ของ ZF ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD โดยส่งกำลังแบบ 40 : 60 ปล่อย CO2 ที่ 278g./km.
All NEW Continental GT ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ภายใน 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด Top Speed ที่ 333 กิโลเมตร/ชั่วโมง
การใช้เครื่องยนต์ที่เรียงกระบอกสูบแบบ W นั้น ทำให้เครื่องยนต์มีขนาดเล็กกว่า เครื่องยนต์แบบ V12 ถึง 24% สามารถช่วยในเรื่องของกระจายน้ำหนัก และ เพิ่มพื้นที่ให้กับห้องโดยสารได้อีกด้วย นอกจากนี้ Bentley ยังมีโหมด Sport Launch ที่จะสร้างแรงดันล่วงหน้าที่คลัชเพื่อการส่งถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์สู่ระบบขับเคลื่อน ได้อย่างแม่นยำเมื่อผู้ขับขี่ต้องการใช้ความเร็วสูง พร้อมทั้งระบบ Start-Stop สำหรับการขับขี่ภายในเมือง
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ All NEW Continental GT นี้ทำได้คือ 8.19 กิโลเมตร/ลิตร (ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมที่ทำได้เพียง 7.04 กิโลเมตร/ลิตร)
All NEW Continental GT มาพร้อมระบบ Bentley Dynamic Ride มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ ควบคุมการหมุนของเพลาแต่ละอัน ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ นอกจากนี้ช่วงล่างแบบถุงลม Air Suspension ได้รับการปรับปรุง โดยเพิ่มช่องอากาศที่ใช้รับการสั่นสะเทือนเป็น 3 ช่อง สามารถรับปริมาตรของอากาศได้ถึง 60% จึงทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
พร้อมการทำงานของ ระบบ Continuous Damping Control (CDC) ปรับการรับแรงกระแทกอย่างต่อเนื่อง โดยระบบจะวัดความเร็ว และ ระยะห่างระหว่างล้อกับตัวถัง อย่างต่อเนื่องในแต่ละมุม เพลาด้านหน้า และ ด้านหลัง ของ Continental GT โครงสร้างเป็นอลูมิเนียม น้ำหนักเบา ในส่วนของระบบเบรก มีการขยายขนาดเพิ่ม 15 มิลลิเมตร จากรุ่นเดิม เป็น 420 มิลลิเมตร
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และ ระบบความปลอดภัย เช่น
- ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้มือ Hands-free boot opening
- ระบบตรวจจับ และ เตือนคนเดินถนน Pedestrian Warning
- ระบบเบรกอัตโนมัติ City Braking System
- ระบบเตือนป้าย และ สัญญาณจราจร Traffic-sign Recognition
- กล้องมองภาพรอบคัน Top View Camera
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
- ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติเมื่อใช้ระบบ ACC : Traffic-jam Assist
- ระบบเตือน และ ช่วยรักษาให้รถอยู่ในช่องจราจร Active Lane Assist
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ Head-up Display
- กล้องอินฟราเรด ตรวจจับวัตถุตอนกลางคืน Night Vision – Infrared Camera
- ระบบเตือนก่อนเกิดเหตุ Pre-sense Braking
All New Bentley Continental GT ใหม่นี้ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Frankfurt Motor Show ระหว่างวันที่ 12 – 24 กันยายน 2017 นี้ โดยมีความพิเศษ และ ตัวเลือกให้ลูกค้าได้เลือกกันหลากหลาย เช่น
- สีตัวถังภายนอก มีให้เลือกถึง 17 สี รวม mix and match ได้ถึง 70 แบบ
- พรมพื้น มีให้เลือก 15 แบบ
- ลายไม้ตกแต่งภายในด้วยเยื่อไม้จริง มีให้เลือก 8 แบบ (ทำด้วยมือ hand-craft) พร้อมลายแบบผสมให้เลือก 4 รูปแบบ
- วัสดุตกแต่งภายใน มีให้เลือกรวม 15 แบบ
- เบาะหนัง และ ลวดลายการตัดเย็บ สี และ การเดินด้าย มีให้เลือกตามใจชอบ
ที่มา : Bentley